นี่คือหนึ่งในโรคอันตรายร้ายแรง ที่ผู้สูงวัยโดยเฉพาะผู้ชายตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปจะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนที่อายุน้อย จึงควรหมั่นสังเกตตนเองให้ดีเพื่อป้องกันหรือหาหนทางแก้ไข มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถจัดการให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แล้วรู้ไหมว่าทำไมผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปี จึงเป็นวัยที่มีความเสี่ยงมากกว่าวัยอื่น เราไปหาคำตอบนี้กัน
อายุมากขึ้น..ระบบในร่างกายก็เสื่อมลง
นี่คือเหตุผลหลักๆ ว่าทำไมผู้ชายวัย 50 ปีขึ้นไปถึงเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้มากกว่าวัยอื่น เพราะเป็นช่วงวัยที่ระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลงนั่นเอง กว่าที่อาหารที่รับประทานเข้าไปจะผ่านระบบย่อย และเดินทางมาถึงทวารหนักก็ต้องใช้เวลามากกว่าคนในวัยอื่นๆ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบทานอาหารย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์และอาหารที่มีไขมันสูง ทั้งที่รับประทานวันละเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่เพราะการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายที่เสื่อมลงจากปกติ ที่ใช้เวลาตั้งแต่รับประทานไปจนถึงขับถ่ายต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วันอยู่แล้ว พออายุมากขึ้นร่างกายก็ต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยมากขึ้นกว่าเดิม กว่าจะขับถ่ายออกจากร่างกายอาจใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ไปแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้มีอาหารไปค้างอยู่ในระบบย่อยนานเกินไป เกิดการบูด เน่า เสีย ค้างอยู่ในลำไส้
อาการที่เกิดขึ้น คือทำให้ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ แน่นท้อง ทำให้เกิดอาการท้องผูก ท้องเสีย หรือระบบขับถ่ายแปรปรวนนั่นเอง หากเป็นแบบนี้อย่างต่อเนื่องลำไส้ก็จะอ่อนแอ เกิดแบคทีเรียไม่ดีสะสมไว้ที่ลำไส้นานๆเข้า จำไปทำลายแบคทีเรียดีที่คอยควบคุมไม่ให้ท้องเสีย ท้องผูก และช่วยระบบย่อยอาหารให้ค่อยๆ หมดไปด้วย เพราะฉะนั้นผู้ชายในวัย50 ปีขึ้นไป จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้นั่นเอง
ควรเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย
ถ้าจะบอกว่าโรคมะเร็งลำไส้เป็นความเสี่ยงของผู้ชายสูงวัยตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปเท่านั้น ก็อาจไม่แน่นอนเสมอไป เพราะคนสมัยนี้มีพฤติกรรมการกินที่ทำลายความแข็งแรงของลำไส้ และยังกระตุ้นให้เกิดมะเร็งลำไส้ก่อนวัยมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะคนที่ชอบอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และอาหารที่มีไขมันสูง หนำซ้ำยังไม่ชอบทานผัก ผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำน้อย ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้มากขึ้นเท่านั้น
Did you Know !!
ถ้าเราไม่อยากเป็นหนึ่งในคนที่มีความเสี่ยง ก็ควรเริ่มดูแลตัวเองง่ายๆ ตั้งแต่วันนี้ เริ่มจาก…
• รับประทานผัก ผลไม้เป็นประจำ ช่วยเพิ่มกากใยที่ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ
• เลี่ยงอาหารประเภทเนื้อแดง ไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารที่แคลอรี่สูงแต่เส้นใยอาหารต่ำ หรืออาหารพวกปิ้ง ย่าง ทอดเป็นประจำ
• เลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตามมา
• หันมาออกกำลังกาย อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งอยู่กับที่นานๆ เพราะการนั่งนานๆ ก็ทำให้เกิดหลายๆ โรคตามมาเช่นกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ ศัลยกรรม