ปวดประจำเดือนรุนแรง..เสี่ยงสารพัดโรค
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
26-เม.ย.-2564
         ปัญหาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักพบเป็นประจำทุกๆ เดือน คือ การปวดท้องประจำเดือน มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งต้องลางาน หรือลาเรียน เนื่องจากปวดท้องประจำเดือน โดยเฉลี่ยผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์มักลาป่วย 1 - 4 วัน ต่อเดือน เนื่องจากมีอาการปวดประจำเดือนมากจนไม่สามารถมาเรียนหรือทำงานได้
อาการปวดประจำเดือนคือ อาการปวดบีบเป็นพักๆ บริเวณท้องน้อย อาจร้าวไปถึงบริเวณหลัง บริเวณก้น หรือบริเวณต้นขา อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หน้ามืด เป็นลมร่วมด้วยได้ การปวดประจำเดือนมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
          ปวดแบบไม่เป็นโรค จะปวดรอบเดือนใน 1 - 2 วันแรกของรอบเดือนเท่านั้น สามารถทนปวดได้ ไม่ต้องถึงขั้นรับประทานยา ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน หรือการงาน การเรียนยังคงไปไหนมาไหนได้ ลักษณะเช่นนี้ มีสาเหตุเกิดจากการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เพื่อไม่ให้รอบเดือนมามากจนทำให้เกิดภาวะตกเลือด
          ปวดแบบเป็นโรค จะปวดท้องประจำเดือนมากจนต้องรับประทานยาแก้ปวด บางรายปวดท้องหลายวันก่อนมีประจำเดือน ปวดมากขึ้นเมื่อมีประจำเดือน และอาจปวดมากต่อเนื่องไปหลังจากประจำเดือนหมด สังเกตได้จากการเพิ่มปริมาณในการรับประทานยาระงับ เช่น พาราเซตามอล 2 เม็ด ยังไม่บรรเทา บางรายถึงขั้นเพิ่มปริมาณเป็น 4 เม็ด หรือเปลี่ยนมารับประทานยาที่แรงขึ้น และอาการปวดก็จะเพิ่มช่วงเวลาขึ้น จากที่เคยปวด 2 - 3 วัน ก็ขยับขึ้นมาเป็นตลอดช่วงที่มีประจำเดือน อาการเช่นนี้สามารถสันนิฐานได้หลายโรค ได้แก่
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย
  • พังผืดในช่องท้อง
  • เนื้องอกมดลูก
  • ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในตัวมดลูก
  • ความผิดปกติแต่กำเนิดของช่องทางคลอด หรือปากมดลูก
  • ภาวการณ์ติดเชื้ออักเสบในอุ้งเชิงกราน
              สำหรับการจัดการอาการปวดท้องประจำเดือนไม่มากนัก อาจเริ่มด้วยการรับประทานยาระงับปวดทั่วไป นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการปวดได้ แต่หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการปวดแบบเป็นโรค ควรมาพบแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุ และให้การจัดการต่อไป สิ่งสำคัญ คือ อย่ากลัว หรือชะล่าใจต่อการเข้ามารับการตรวจ เพราะโรคที่ซ่อนมากับอาการปวดประจำเดือนนั้นสามารถจัดการได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ สุขภาพสตรี