ไขมันในช่องท้อง อันตรายแค่ไหน

ไขมันในช่องท้องอันตรายแค่ไหน? เช็กความเสี่ยงด้วย DEXA Scan 

หลายคนอาจเคยได้ยินไขมันในช่องท้องหรือVisceral Fatแต่รู้หรือไม่ว่าไขมันชนิดนี้แตกต่างจากไขมันใต้ผิวหนังทั่วไปและเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิดเพราะมันสะสมอยู่รอบอวัยวะสำคัญภายในร่างกายของเราเช่นตับตับอ่อนและลำไส้การมี Visceral Fat สูงเกินไปนั้น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายแรงหลายชนิด

Visceral Fat อันตรายแค่ไหน?
การมีไขมันในช่องท้องมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่สำคัญดังนี้:
1.
โรคหัวใจและหลอดเลือด Visceral Fat ส่งผลโดยตรงต่อระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ
2.
เบาหวานประเภท 2 ไขมันชนิดนี้ทำให้เซลล์เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลได้ยากขึ้น
3.
ไขมันพอกตับ (NAFLD) เป็นภาวะที่ไขมันสะสมอยู่ในตับมากเกินไป ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะตับแข็งในอนาคต
4.
ความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดอุดตัน Visceral Fat กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูงและปัญหาหลอดเลือด




สัญญาณเตือนว่าคุณอาจมี Visceral Fat สูง 

แม้ไม่ได้มีรูปร่างอ้วนทั้งตัแต่ก็อาจมีไขมันในช่องท้องสูงได้ลองสังเกตสัญญาณเหล่านี้: 

  • รอบเอวขยายออก แม้ว่าน้ำหนักตัวอาจจะยังคงเดิมหรือไม่เปลี่ยนแปลงมาก
  • น้ำหนักขึ้นง่าย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องหรือที่เรียกกันว่า "อ้วนลงพุง"
  • มีภาวะดื้ออินซูลิน หรือตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • ความดันโลหิตเริ่มสูง ขึ้นผิดปกติ


DEXA Scan
คืออะไร? ทำไมต้องใช้ตรวจ Visceral Fat? 

DEXA Scan (Dual-Energy X-ray Absorptiometry) เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition Analysis) ได้อย่างละเอียดแม่นยำ รวมถึงการวัดระดับไขมันในส่วนต่างๆ 


DEXA Scan
มีความสำคัญในการตรวจ Visceral Fat เพราะ

  • มีความละเอียดสูง สามารถวัดไขมันในช่องท้องได้โดยตรงและแม่นยำต่างจากเครื่องชั่งน้ำหนักทั่วไปที่ประเมินจากค่า BMI
  • แยกประเภทไขมันได้ชัดเจน ระบุปริมาณระหว่างไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) กับไขมันในอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน
  • ช่วยประเมินความเสี่ยง โรคผลลัพธ์ที่ได้จาก DEXA Scan เป็นข้อมูลสำคัญที่แพทย์ใช้ประกอบในการประเมินความเสี่ยงของโรค และวางแผนดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล


DEXA Scan
เหมาะสำหรับใคร?

1. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและวางแผนออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุงหรือมีประวัติโรคเรื้อรังในครอบครัว
3. ผู้ที่ต้องการติดตามผลการดูแลสุขภาพหรือโปรแกรมลดไขมันอย่างละเอียดและแม่นยำ

Visceral Fat ควรจัดการอย่างไร?
การลดไขมันในช่องท้องต้องอาศัยการปรับพฤติกรรมอย่างจริงจัง ดังนี้

  • ควบคุมอาหารหลีกเลี่ยงน้ำตาล ไขมันทรานส์ และอาหารแปรรูป เน้นการบริโภคผัก ผลไม้ โปรตีนไม่ติดมัน และธัญพืชไม่ขัดสี
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอการทำคาร์ดิโอเช่นวิ่งเดินเร็วปั่นจักรยานและการเวทเทรนนิ่งจะเป็นตัวช่วยลดไขมันในช่องท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำใช้ DEXA Scan เพื่อติดตามระดับไขมันอย่างแม่นยำ และปรับแผนการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมอยู่เสมอ

อยากรู้ว่า Visceral Fat ของคุณอยู่ในระดับไหน? ตรวจด้วย DEXA Scan วันนี้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกว่าเดิม! 



สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
โทร. 02 1500 900 
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset