ข้อเข่าเสื่อม เดินขึ้นบันได ช่วยให้หาย หรือเสี่ยงป่วยหนักกว่าเดิม
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
18-ต.ค.-2565
หลายคนอาจจะเคยสับสน ไม่แน่ใจว่าพฤติกรรมบางอย่างจะเป็นการช่วยป้องกันหรือทำร้ายข้อเข่ามากกว่าเดิมกันแน่ อย่างการขึ้น-ลงบันได ที่บางคนมองว่า มันก็เป็นเหมือนการออกกำลังที่น่าจะดีต่อข้อเข่า แต่ความจริงแล้วมันอาจจะเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าหรือเปล่า? เรามาหาคำตอบกัน!

ทำไมแค่ขึ้น-ลงบันไดถึงเสี่ยงข้อเข่าเสื่อมได้
เพราะเวลาที่เราขึ้น-ลงบันได ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักตัวที่มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการลงบันไดหัวเข่าจะรับภาระหนักมากขึ้นไปอีก เพราะจะมีการทิ้งน้ำหนักที่ปลายเท้าและมีการงอเข่า ท่าทางหรืออิริยาบถเช่นนี้ จะทำให้เกิดแรงกดทับที่หัวเข่าขึ้นมาทันที และเมื่อรวมกับจังหวะการก้าวขึ้นหรือลงก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว จึงเป็นการเพิ่มโอกาสของการเป็นข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น หากขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ นั่นเอง

ข้อเข่าเสื่อม VS. ขึ้น-ลงบันได ส่งผลอย่างไรได้บ้าง?
การที่ต้องก้าวเท้าขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ จะทำให้ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมเกิดอันตราย เพราะกำลังของกล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าไม่แข็งแรงพอที่จะประคองเข่าได้อย่างมั่นคง และยิ่งเพิ่มการเสียดสีให้กับข้อเข่า ซึ่งทำลายกระดูกอ่อนภายในข้อด้วย และจะอันตรายมากขึ้นโดยเฉพาะเวลาลงบันได ยิ่งถ้าบวกกับความเร็วเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มแรงกระแทกมากขึ้นเท่านั้น ทำให้กระดูกอ่อนตรงข้อเข่าและข้อเท้าเกิดการเสียดสีหนักขึ้น ซึ่งพออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะมีหินปูนมาเกาะบริเวณข้อ น้ำในเข่าลดลง โอกาสเสียดสีก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรเลี่ยงการขึ้นลงบันไดให้มากที่สุด แม้แต่ทางลาดชัดก็ไม่ควรใช้บ่อยเช่นกัน

การออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม
พยายามเน้นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณหัวเข่าให้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของอาการปวดและความเสื่อมที่มากขึ้น เช่น การนั่งหรือนอนเหยียดหัวเข่าให้ตรง เกร็งต้นขาแล้วยกปลายเท้าขึ้น ทำเซตละ 5-10 ครั้ง สามารถทำซ้ำได้ทุก 2 ชั่วโมง หากไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีอาการปวดหัวเข่ารุนแรง


นอกจากนี้ยังควรลดแรงกระแทกและเสียดสีที่หัวเข่าให้เกิดน้อยที่สุด ซึ่งการออกกำลังกายในน้ำ ทั้งการว่ายน้ำ การเดินในน้ำ ก็เป็นวิธีที่ดีมากสำหรับผู้ป่วย “โรคเข่าเสื่อม”


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4
โทร. 02-514-4141 ต่อ 1102-1105

Line id : @Paolochokchai4