ข้อเข่าเสื่อม ฉีด PRP ช่วยได้!
อาการปวดข้อเข่า มีเสียงดังในข้อ หรือรู้สึกติดขัดบริเวณหัวเข่าเมื่อลุก นั่ง หรือเดิน เป็นอาการที่หลายคนกำลังประสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย และเมื่อมีอาการปวดหัวเข่า คนส่วนหนึ่งอาจใช้การรักษาด้วยการซื้อยามากินเอง ทำให้พอบรรเทาปวดไปได้ในระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดอาการปวดเหล่านั้นก็มักจะกลับมา แถมยังเป็นมากขึ้นและปวดมากขึ้นอีกด้วย
จะดีกว่าไหม? หากเราใช้วิธีการรักษาที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และผลข้างเคียงก็น้อยกว่าการกินยาในปริมาณมากๆ เป็นประจำ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการรักษาอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยการฉีด PRP หรือ Platelet Rich Plasma กัน
ข้อเข่าเสื่อม...โรคข้อเข่าที่ต้องเข้าใจ
ข้อเข่าเสื่อม อาการที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักมาเป็นประจำ ส่งผลให้กระดูกอ่อนที่รองรับน้ำหนักตัวของผู้ป่วยเกิดการยุบตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้กระดูกข้อต่อเกิดการเสียดสีกันมากขึ้น จนเกิดการสึกกร่อนของข้อเข่า จึงเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดบริเวณหัวเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือใช้งานข้อเข่า โดยระยะความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ผู้ป่วยยังสามารถเคลื่อนไหวหรือใช้งานหัวเข่าได้ตามปกติ แต่หากมีการใช้งานบริเวณหัวเข่าหนักเกินไป จะเริ่มมีอาการปวดขึ้นมา
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มใช้งานหนักบริเวณเข่ามากไม่ได้แล้ว
ระยะที่ 3 ในระยะนี้ อาการปวดเข่าจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย เริ่มทำกิจวัตรประจำวันตามปกติไม่ได้
ระยะที่ 4 เป็นระยะที่ผู้ป่วยเริ่มเดินไม่ไหว จะรู้สึกปวดเข่าตลอดเวลาแม้ไม่ได้ขยับร่างกาย หรือจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการพยุงตัวขณะเดิน
การฉีด PRP คืออะไร?
PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือ การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่ได้จากการนำเลือดของตัวผู้ป่วยเพียงเล็กน้อย มาทำการปั่นเพื่อแยกจนได้เป็นพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วนำไปฉายแสง (Photoactivation) จากนั้นแพทย์จะฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด และลดการอักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูก และเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ในบริเวณนั้นๆ เป็นการเร่งกระบวนการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมาดีได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ข้อดีของการรักษาด้วยการฉีด PRP
เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยเองมาใช้ จึง...
การฉีด PRP เหมาะกับอาการแบบไหน และกับใคร?
ทั้งนี้ การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP จะได้ผลดีที่สุด เมื่อผู้ป่วยมีอาการอยู่ในระยะที่ 1 หรือ 2 หากพ้นระยะนี้ไป อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
PRP ใช้รักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บประเภทใดได้บ้าง?
เพราะการฉีด PRP จะช่วยลดความเจ็บปวด และช่วยกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บได้ดี จึงนิยมใช้รักษาโรคกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ซึ่งสามารถรักษาได้หลายโรค เช่น
ดังนั้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวกับข้อ เอ็น และกล้ามเนื้อ การรักษาด้วยวิธีฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น หรือ PRP ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นได้
และเนื่องจากเป็นการใช้เลือดของตัวผู้ป่วยเอง อีกทั้งยังมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ได้ผลการรักษาที่ตรงจุด การฟื้นตัวก็ไว จึงทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการผ่าตัด ดังนั้นหากผู้ป่วยยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดหรืออาการยังอยู่ในระดับที่รักษาด้วยการฉีด PRP แล้วได้ผลดี การรักษาด้วยวิธีนี้ก็นับว่าได้ประโยชน์สูงมากทีเดียว
บทความโดย
นายแพทย์ กษิดิศ ศรีจงใจ
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ