ตรวจ HPV DNA ลดความเสี่ยง เลี่ยงมะเร็งปากมดลูก
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
19-ม.ค.-2567

ตรวจ HPV DNA ลดความเสี่ยง เลี่ยงมะเร็งปากมดลูก

หนึ่งในมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของหญิงไทย คือ “มะเร็งปากมดลูก” ซึ่งเป็นมะเร็งไม่กี่ชนิดที่เราทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรค และยังเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจคัดกรองและรักษาได้ก่อนเป็น เนื่องจากตัวการสำคัญนั้นมาจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า “HPV”

 


รู้จักกับเชื้อ HPV ต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก

เชื้อ HPV หรือ Human Papilloma Virus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนัก หรือมะเร็งช่องปากและลำคอ และโรคหูดหงอนไก่ โดยเชื้อไวรัส HPV แบ่งออกเป็นชนิดที่ความเสี่ยงต่ำและชนิดความเสี่ยงสูง

  • ชนิดความเสี่ยงต่ำ ผู้ที่ติดเชื้อชนิดนี้อาจไม่ก่ออาการหรืออาจก่อให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ทำให้เกิดรอยโรคบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ได้
  • ชนิดความเสี่ยงสูง เมื่อติดเชื้อจะไม่ก่อให้เกิดอาการ แต่ในผู้ป่วยที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อได้เป็นเวลานานจะมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ทำให้อาจกลายเป็นมะเร็งได้

 

สาเหตุของการติดเชื้อ HPV

สาเหตุของการติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก ปาก หรือการใช้อุปกรณ์เพื่อสนองความต้องการทางเพศร่วมกัน ทำให้ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนแม้จะครั้งเดียว ก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV ได้ รวมถึงการสัมผัสระหว่างผิวหนังต่อผิวหนัง

 


ตรวจหาเชื้อ HPV อย่างแม่นยำด้วยการตรวจ HPV DNA

ปัจจุบันมีการตรวจหาเชื้อ HPV แบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอหรือที่เรียกว่า “การตรวจ HPV DNA” ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อ HPV ได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ก่อนที่เซลล์จะเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยมีวิธีตรวจคล้ายกับการตรวจภายใน คือการเก็บตัวอย่างบริเวณปากมดลูกและช่องคลอดด้านใน จากนั้นจึงส่งตรวจเพื่อหาเชื้อ HPV

ซึ่งการตรวจ HPV DNA สามารถตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อไวรัส HPV ชนิดความเสี่ยงสูงได้ รวมถึงสายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด

 

การตรวจร่วมกัน ย่อมให้ผลที่แม่นยำกว่า

การตรวจเซลล์ปากมดลูกมีความไวที่ไม่มากนัก แต่เมื่อตรวจร่วมกับ HPV DNA จะเพิ่มความไว และความแม่นยำของการตรวจ หากตรวจพบการติดเชื้อชนิดความเสี่ยงสูง ก็สามารถวางแผนการตรวจติดตามและรักษาเพื่อป้องกันการพัฒนาต่อเป็นมะเร็งปากมดลูกให้เหมาะสมกับบุคคล

 


HPV DNA ควรตรวจตั้งแต่เมื่อไหร่ และบ่อยแค่ไหน

  1. แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยตรวจทุก 2 ปี หากตรวจเซลล์ปากมดลูกอย่างเดียวแล้วผลปกติ
  2. ตรวจทุก 5 ปี หากตรวจ Co-testing เริ่มตั้งแต่อายุ 30 ปี (การตรวจร่วมกับวิธี Pap Smear หรือ Thin Prep) แล้วผลปกติ แต่หากตรวจแล้วพบเชื้อหรือผลผิดปกติ การตรวจซ้ำจะขึ้นอยู่กับกรณีเชื้อที่พบและผลเซลล์

 

การเตรียมตัวก่อนตรวจ HPV DNA

  • งดมีเพศสัมพันธ์ก่อนมาตรวจ 48 ชั่วโมง
  • งดใช้ผ้าอนามัยแบบสอด หรือใช้ยาที่ใช้ในช่องคลอดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดสวนล้างช่องคลอด
  • มาตรวจในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน

 

แม้ว่ามะเร็งปากมดลูกจะเป็นมะเร็งที่ร้ายแรง แต่มะเร็งปากมดลูกก็เป็นมะเร็งไม่กี่ชนิดที่สามารถตรวจคัดกรองพบระยะก่อนเป็นมะเร็ง ดังนั้นจึงไม่ควรตรวจคัดกรองตามคำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเซลล์หรือ Co-testing เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

นอกจากนี้ การป้องกันอีกหนึ่งวิธี ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ คือ การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป

บทความโดย

แพทย์หญิงลูกหวาย คู่ธีรวงศ์

แพทย์ประจำสาขาสูตินรีเวช

โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี

โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2201-2202
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn