-
อาการคัน...ในผู้หญิงเกิดจากอะไร
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
09-ม.ค.-2567

อาการคัน...ในผู้หญิงเกิดจากอะไร?

คุณผู้หญิงส่วนใหญ่มักทราบถึงสาเหตุของ "อาการคัน" ที่เกิดขึ้นบริเวณจุดซ่อนเร้นหรืออวัยวะเพศ แถมหลายคนยังคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติหรือเป็นปกติที่จะต้องมีอาการคันบ้าง คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงปล่อยไว้ให้หายเองหรือเป็นซ้ำๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว อาการคันอวัยวะเพศในผู้หญิงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจและต้องรู้ไว้ดังนี้

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการคันในบริเวณจุดซ่อนเร้นหรืออวัยวะเพศในผู้หญิง

  1. การโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้น

การโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคันได้ โดยมักเกิดอาการคันเมื่อขนเริ่มงอกใหม่ ซึ่งการแก้ปัญหานี้ทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการกำจัดขนโดยละเว้นการโกน แล้วหันมาใช้การตัด เล็ม หรือการแวกซ์ขนแทน

 

  1. การใช้สารเคมี หรือแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ

สารเคมีบางชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะจากสบู่ ครีมอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดังนั้น หากสงสัยควรลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้และดูว่ายังคันอยู่หรือไม่

 

  1. การติดเชื้อรา

การติดเชื้อราบริเวณอวัยวะเพศโดยเฉพาะภายในเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ส่งผลให้เกิดอาการคัน แสบร้อน ไปจนถึงอาจมีตกขาวเป็นก้อนไหลออกมา ซึ่งควรได้รับการรักษาอย่างตรงจุด

 

  1. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

พบได้มากในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัย ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หูด หรือเริม ซึ่งก็จะมีอาการคันร่วมด้วย

 

  1. ความเครียด

แม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็ส่งผลให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณช่องคลอดได้ เนื่องจากความเครียดจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เมื่อร่างกายอ่อนแอก็ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย รวมถึงเกิดอาการคันได้ง่ายกว่าการมีร่างกายที่แข็งแรง

 


วิธีป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้นในผู้หญิง

  • เลี่ยงการใส่เสื้อผ้าและชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป
  • ไม่เกาผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้น เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองรุนแรงขึ้นได้
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-5 ชั่วโมง ในช่วงมีประจำเดือน
  • เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ส่งผลให้เกิดอาการคัน หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
  • หากเกิดอาการคันแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการคันจะดีขึ้นหรือหายไป
  • ทำความสะอาดอวัยวะเพศจากทางด้านหน้าไปหลังให้สะอาด
  • ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น

 

หากมีอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือคันบริเวณอวัยวะเพศ แล้วอาการคันไม่หายไป แต่กลับเพิ่มความรุนแรงขึ้นก็ไม่ควรปล่อยไว้ แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยโรค เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงทีและตรงจุด

 

นอกจากนี้ ผู้หญิงทุกคนยังควรเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำทุกปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ขึ้นอยู่กับช่วงวัยและปัญหาสุขภาพในแต่ละบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรค หรือรีบรักษาทันทีเมื่อพบความผิดปกติ



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี

โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2201-2202
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn