-
ทำความรู้จักภาวะกระดูกพรุน...โรคที่ใครหลายคนมองข้าม
ภาวะกระดูกพรุน ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุหรือผู้หญิงเท่านั้น เพราะภาวะกรุนดูกพรุนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังเป็นภาวะที่หากไม่เข้ารับการตรวจก็จะไม่รู้ว่าตนเองมีภาวะนี้ แต่จะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้กระดูกหักไปแล้ว ดังนั้นหากเราทำความเข้าใจภาวะนี้อย่างถูกต้อง ก็สามารถป้องกันตนเองจากภาวะเงียบอย่าง “ภาวะกระดูกพรุน”
ทำความเข้าใจกับ “ภาวะกระดูกพรุน”
ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็นภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดน้อยลงจนทำให้กระดูกมีความเปราะบางส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย โดยปกติกระดูกจะประกอบไปด้วยเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) ที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์กระดูกขึ้นมาใหม่ตามกระบวกการเติบโตของร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจากแคลเซียมและโปรตีน และเซลล์สลายกระดูก (Osteoclast) ที่ทำหน้าที่สร้างสลายเนื้อกระดูกเก่า หากเกิดการสลายตัวของกระดูกเร็วกว่าการสร้างกระดูกก็จะทำให้เกิด “ภาวะกระดูกพรุน”
ปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดกระดูกพรุน
หลายคนอาจคิดว่าภาวะกระดูกพรุนมักมีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นเพียงเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้ ดังนี้...
สัญญาณเตือนเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน
ภาวะกระดูกพรุน เป็นภาวะที่ไม่มีอาการเตือนใดๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกหักเสียแล้ว แต่ก็สามารถสังเกตตัวเองได้หากพบอาการบ่งชี้เหล่านี้ ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะกระดูกพรุน
ภาวะกระดูกพรุน...หากปล่อยไว้เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนตามมา
ภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาเมื่อเป็นภาวะกระดูกพรุน คือ ความเจ็บปวดจากภาวะกระดูกทรุดตัว หรืออาการปวดหลัง ทำให้มีข้อจำกัดมากขึ้นในการเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงมีโอกาสที่กระดูกจะแตกหักงง่าย แม้จะได้รับการกระแทกหรือแรงกดที่ไม่แรง นั่นจึงส่งผลให้เกิดผลกระทบทางจิตใจอย่างภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
หากเกิดการแตกหักบริเวณกระดูกสะโพกอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเดินหรือเคลื่อนไหวได้ ทำให้ต้องอยู่กับที่ตลอดเวลา อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาอย่างแผลกดทับหรือโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้
ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก....ป้องกันอันตรายจากภาวะกระดูกพรุน
การวินิจฉัยภาวะกระดูกพรุนสามารถทำได้โดย การตรวจวัดความหนาแน่นมวลกระดูก (Bone Mineral Density, BMD) เป็นการตรวจเพื่อหาค่าความหนาแน่นของกระดูกตามส่วนต่างๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน โดยตำแหน่งที่ตรวจมักจะเป็นบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก กระดูกข้อมือ เนื่องจากบริเวณเหล่านี้เป็นบริเวณที่มีการแตกหักของกระดูกจากภาวะกระดูกพรุนได้บ่อย หรือหากจำเป็นก็สามารถตรวจมวลกระดูกได้ทั่วตัว
โดยผลการตรวจจะออกมาเป็นค่าความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งในคนปกติจะอยู่ที่มากกว่า -1.0 ส่วนคนที่มีภาวะกระดูกบาง (Osteopenia) จะมีค่าอยู่ระหว่าง -1.0 ถึง -2.5 และผู้ป่วยภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) จะมีค่า BMD น้อยกว่า -2.5
การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกดีอย่างไร?
ภาวะกระดูกพรุน หากรู้ทัน ป้องกันได้
ทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นภาวะกระดูกพรุน แต่ก็ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ ภาวะกระดูกพรุนหากรู้เท่าทันก็สามารถป้องกันได้ โดยการดูแลตนเองและบำรุงกระดูกด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
หากไม่อยากให้ตนเองเป็นหรือเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน ก็ต้องหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองเพียงแค่เริ่มต้นจากการกิน หรือหากมีความสงสัยเกี่ยวกับมวลกระดูก การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก ก็สามารถช่วยให้รับรู้ถึงมวลกระดูกและสามารถปรับพฤติกรรมต่างๆ ให้สุขภาพแข็งแรงได้ เพราะ “การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา”