ปรับพฤติกรรมและการดูแล เพื่อแก้ปัญหาฟันผุและโรคอ้วน

แก้ปัญหาฟันผุ และโรคอ้วนในเด็ก วิธีปรับพฤติกรรม เพื่อสุขภาพเด็กที่ดีกว่า! 

ในยุคปัจจุบันเราพบปัญหาฟันผุในเด็กเล็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเด็กที่พบอายุก็น้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าฟันผุในเด็กจะมีมาทุกยุคทุกสมัย แต่สาเหตุหลักๆ มักเกิดจากการดูแลฟัน ที่ไม่เหมาะสม เช่น การที่ผู้ปกครองยังไม่ให้เด็กเลิกขวดนมตามวัย ซึ่งตามหลักแล้ว เด็กควรเลิกขวดนมได้ในช่วงอายุ 12-18 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงฟันผุจากการดื่มนมตอนกลางคืนหรือดูดขวดนมเป็นเวลานาน 

 

ฟันผุในเด็ก ต้นตอคือ "น้ำตาล" และวิธีดูแลฟันลูกน้อย 

ปัญหาฟันผุในเด็กส่วนใหญ่เกิดจากการบริโภคอาหารที่มีรสหวาน ทั้งของคาว ของหวาน รวมถึงน้ำหวาน แลนมหวาน ซึ่งน้ำตาล ในอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เกิดกรดทำลายเคลือบฟัน และนำไปสู่ฟันผุได้ง่าย ดังนั้นการดูแลฟันของลูกน้อยจึงควรเริ่มต้นตั้งแต่ฟันซี่แรกของลูกงอกขึ้น 


เคล็ดลับดูแลฟันลูกน้อย

  • แปรงฟัน ใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กขนาดเหมาะสม และยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีฟลูออไรด์อย่างน้อย 1,000 ppm (ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์) แปรงฟันเช้าและเย็น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • ปริมาณยาสีฟัน สำหรับเด็กเล็ก ใช้ปริมาณยาสีฟันเท่าเมล็ดข้าวสาร และสำหรับเด็กโต (สามารถบ้วนปากเองได้ดี) ใช้ประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว
  • พบทันตแพทย์เด็ก ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันและวางแผน การดูแลสุขภาพฟันอย่างถูกวิธี รวมถึงการเคลือบฟลูออไรด์ หรือการเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อป้องกันฟันผุ

 

โรคอ้วนในเด็ก (ภาวะโภชนาการเกิน) อันตรายต่อสุขภาพระยะยาว 

นอกเหนือจากฟันผุแล้ว การบริโภคอาหารผิดประเภทและในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลสูง ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เด็กๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคอ้วน หรือภาวะโภชนาการเกินได้ 

หากลูกมีน้ำหนักตัวเกิน จนมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะทางร่างกาย เช่น เหนื่อยง่าย ข้อเข่ามีปัญหา หรือจิตใจ หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ชัดเจน ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และแก้ปัญหาน้ำหนักเกิน เพราะการที่เด็กเป็นโรคอ้วน จะเพิ่มโอกาสพบ โรคร่วมอื่นๆ ได้มาก เช่น

  • ภาวะไขมันเกินในเด็ก
  • ความดันโลหิตสูงในเด็ก
  • เบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็ก
  • ภาวะไขมันพอกตับ
  • ปัญหาข้อต่อและกระดูก
  • หยุดหายใจขณะหลับ

หากยิ่งปล่อยให้เด็กเป็นโรคอ้วน โดยไม่ได้รับการแก้ไข การรักษาก็จะยากขึ้น และเด็กจะมีโรคร่วม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว 

 

ปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกาย กุญแจสำคัญสู่ สุขภาพดี 

เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฟันผุ และโรคอ้วนในเด็กอย่างยั่งยืน ผู้ปกครองและคนในครอบครัวมีบทบาทสำคัญในการเป็นแบบอย่างและส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี

  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสม ลดหวาน มัน เค็ม เน้นผัก ผลไม้ และโปรตีน
  • ควบคุมปริมาณอาหาร สอนให้เด็กรู้จักความพอดี ไม่บังคับให้กินจนเกินอิ่ม
  • ลดเครื่องดื่มและอาหารหวานจัดำกัดการบริโภค น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมหวาน และอาหารแปรรูป
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ชวนกันทำกิจกรรมที่เป็นการออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 60 นาที (สำหรับเด็ก) เช่น วิ่งเล่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาต่างๆ เพื่อช่วยฝึกทักษะการใช้มัดกล้ามเนื้อ การทรงตัว ทั้งยังช่วยเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่รับประทานไปไม่ให้สะสมเป็นไขมันส่วนเกิน 

การปรับพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากฟันผุ โรคอ้วน และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีุขภาพดี และคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต