โรคไข้เลือดออก
โรงพยาบาลเปาโลเกษตร
23-ส.ค.-2566

หน้าฝน กับโรคไข้เลือดออกที่มากับยุงลาย

ในช่วงฤดูฝน หากบ้านไหนที่มีเด็กเล็ก ๆ อยู่ในบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรต้องระมัดระวังโรคไข้เลือดออกเป็นพิเศษ เนื่องจากในสภาพอากาศฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย โดยอาการของไข้เลือดออก จะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ทำความรู้จักกับโรคไข้เลือดออก

        โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue) ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1 , DENV-2 , DENV-3 และ DENV-4 แต่ละสายพันธุ์มีระดับความรุนแรงของโรคต่างกันไป ถ้าหากเป็นไข้เลือดออกจากเชื้อสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแล้ว จะไม่เป็นสายพันธุ์นั้นซ้ำอีก เนื่องจากจะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้น ๆ ตลอดชีวิต (life-long immunity) และจะมีภูมิต่อเชื้อสายพันธุ์อื่น 6-12 เดือน ดังนั้น หากเคยเป็นไข้เลือดออกแล้ว ก็ยังสามารถเป็นโรคไข้เลือดออกซ้ำได้อีก จากการติดเชื้อในสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งการติดเชื้อในครั้งหลัง (Secondary infection) มักจะทำให้มีอาการรุนแรงกว่าการติดเชื้อครั้งแรก (Primary infection)

        การติดต่อของเชื้อไวรัสเดงกี่ จะมียุงลายบ้านเป็นพาหะนำโรค โดยยุงลายจะออกหากินกัดคนในเวลากลางวัน เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดจากผู้ป่วยที่มีเชื้อเดงกี่เข้าไป เชื้อไวรัสเดงกี่ในยุงจะเพิ่มจำนวน และกระจายเชื้อเข้าไปสู่ต่อมน้ำลายของยุง เตรียมพร้อมที่จะปล่อยเชื้อให้กับผู้ที่ถูกกัดครั้งต่อไปได้ตลอดอายุของยุง ซึ่งจะอยู่ได้นาน 1 – 2 เดือน


ระยะอาการของไข้เลือดออก
ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อเดงกี่ มักจะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อแล้วประมาณ 5 – 8 วัน โดยอาการของโรคแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

1. ระยะไข้สูง จะมีไข้สูงเฉียบพลันมากกว่า 38 องศาเซลเซียส อยู่ 2 – 7 วัน ถึงแม้ว่าจะกินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวแล้วไข้ก็ยังไม่ลด ตาและใบหน้า มักจะแดงกว่าปกติ มีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา หรือปวดกระดูก คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจมีผื่นหรือมีจุดเลือดออกขึ้นตามลำตัว แขน ขา  ผู้ป่วยจะไม่มีอาการไอหรือน้ำมูก

2. ระยะวิกฤติ ระยะนี้จะเกิดภายใน 1-2 วันหลังจากไข้เริ่มลง โดยไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อาการทั่วไปจะดูเพลียมากขึ้น เกล็ดเลือดลดต่ำลงอย่างมาก มีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียนหลายครั้ง อาจมีอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย ปัสสาวะออกน้อย ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อกได้ ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

3. ระยะฟื้นตัว อาการทั่วไปจะดีขึ้น เกล็ดเลือดจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ชีพจรและความดันโลหิตเริ่มคงที่ดีขึ้น  เริ่มอยากอาหาร ปัสสาวะออกมากขึ้น มีผื่นแดงคันตามแขนขา

อาการเสี่ยงที่ลูกน้อยจะเป็นไข้เลือดออกรุนแรง
 ไข้ลดลงแต่อาการยังแย่ลง เช่น ยังเบื่ออาหาร ซึม ไม่ค่อยเล่น หรืออ่อนเพลียมาก
 ปวดท้องมาก หรืออาเจียนมาก
 มีเลือดออกตามเยื่อบุร่างกาย เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ประจำเดือนมามากผิดปกติ
 กระหายน้ำตลอดเวลา
 ร้องกวนมากในเด็กเล็ก
 กระสับกระส่าย ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง หรือตัวลาย
 ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4 – 6 ชั่วโมง

การตรวจวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก

 ซักประวัติและตรวจร่างกาย
 ตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค เช่น ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC) เพื่อหาความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว ความเข้มข้นของเลือดและจำนวนเกล็ดเลือด และการตรวจ NS1Ag ต่อเชื้อเดงกี่ หรือภูมิต่อการติดเชื้อเดงกี่ IgM, IgG

การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก

 ให้การรักษาตามอาการ โดยปัจจุบันยังไม่มียารักษาจำเพาะ
 หมั่นเช็ดตัวลดไข้ ให้ยาลดไข้พาราเซตามอล ห้ามให้ยาลดไข้สูงหรือยากลุ่ม NSAIDs หรือแอสไพริน เนื่องจากจะทำให้มีภาวะเลือดออกรุนแรงได้
 ให้สารน้ำชดเชยให้เพียงพอ ดื่มน้ำเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
 ทานอาหารอ่อนย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสีดำหรือแดงคล้ายเลือด
 หากมีอาการรุนแรงขึ้น ควรพามาโรงพยาบาลทันที

วัคซีนไข้เลือดออก

การป้องกันโรคไข้เลือดออก
 ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ เช่น แหล่งน้ำขังในบ้าน
 กางมุ้ง ทายากันยุง
 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก เป็นการเสริมสร้างเกราะป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ ลดความรุนแรงของโรค โดยวัคซีนตัวใหม่มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเชื้อไวรัสเดงกี่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 4 ปี จนถึงผู้ใหญ่อายุ 60 ปี โดยจะฉีด 2 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน สามารถฉีดได้ทั้งในคนที่เคยเป็นและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน




บทความสุขภาพ
➮ พัฒนาการของเด็กตามช่วงวัย
➮ โรคภูมิแพ้ในเด็ก ทำไมต้องระวัง
➮ โรคติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียในเด็ก ต้อนรับช่วงเปิดเทอม
➮  โรคติดเชื้อในเด็ก ที่พ่อแม่ควรระวัง 

➮ โลหิตจาง 








สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์ตรวจสุขภาพเด็ก โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
โทร. 02 1500 900 ต่อ 5121
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset