เตรียมความพร้อมให้ลูกน้อย
เมื่อถึงวัยที่ต้องไปโรงเรียน

        ถือเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญและแสนพิเศษของครอบครัวก็ว่าได้ สำหรับการได้เห็นลูกน้อยเข้าโรงเรียน ซึ่งจริงๆ แล้วช่วงอายุที่เหมาะสมในการเข้าเรียนของลูกนั้นไม่มีตัวเลขที่กำหนดแน่นอนตายตัว แต่เราควรพิจารณาถึงความพร้อมของลูกเป็นสำคัญ และที่สำคัญไปกว่านั้น คือการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้ลูก และติดตามพัฒนาการในทุกๆ ด้านอยู่เสมอ เพื่อวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเข้าโรงเรียนจริงๆ ลูกน้อยจะได้มีความพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะมีได้ สังเกตความพร้อมของลูก ก่อนเข้าเรียน
     สิ่งจำเป็นเมื่อลูกจะต้องเข้าเรียน คือการที่ลูกสามารถดูแลตัวเองได้เบื้องต้น เช่น ลูกสามารถสื่อสารได้แบบสั้นๆ แม้จะยังพูดไม่เก่ง เมื่อหิวนมก็สามารถสื่อสารด้วยภาษากาย หรือคำพูดสั้นๆ ให้ผู้ดูแลเข้าใจได้ หรือดีไปกว่านั้น คือสามารถกินข้าวได้เอง แต่งตัวได้เอง ถอดรองเท้าได้เอง หรือลูกเริ่มมีความสนใจอยากเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน เราอาจจะสังเกตได้จาก เมื่อลูกเห็นเด็กข้างบ้าน ลูกดูมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าไปเล่นด้วย       ลูกมีความวิตกกังวลต่อการแยกจากพ่อแม่น้อยลง เช่น ลูกสามารถรอคอยคุณพ่อคุณแม่ที่ไปเข้าห้องน้ำได้ ลูกสามารถรอคอยแม่ที่ไปทำงานได้ เหมือนรู้ว่าแม่ไปธุระ ไม่ได้หนีไปไหน เดี๋ยวแม่ก็กลับมา สำหรับบ้านไหนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำงานทั้งคู่ เราอาจจะส่งลูกเข้าโรงเรียนเร็วกว่าวัยสักเล็กน้อยก็ไม่ผิดอะไร แต่ว่าต้องทำใจและมีความเข้าใจว่า ที่เราให้ลูกไปโรงเรียนในขณะที่ความพร้อมของเขามีไม่มาก ลูกอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวและเรียนรู้ค่อนข้างนานขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมตัวรับมือ โดยให้เวลา คอยปรึกษาคุณครูหรือผู้ดูแลเด็ก และเอาใจใส่ลูกให้มากเป็นพิเศษ เพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นยุค New Normal ที่ต้องปรับเปลี่ยนเรื่องการเลี้ยงลูกการปรับเปลี่ยน

       สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องดูแลลูกในยุคนี้ ก็จะต้องเน้นไปที่เรื่องการดูแลความสะอาด ซึ่งปกติก็ค่อนข้างต้องดูแลเยอะอยู่แล้ว แต่ในยุคนี้ก็อาจจะต้องพิถีพิถันขึ้น อย่างเช่น เมื่อกลับมาจากที่ทำงาน ก็จะต้องมีการล้างมือ อาบน้ำ สระผมก่อนสัมผัสกับเด็กๆ เมื่ออยู่ที่บ้านก็จะต้องกินร้อน แยกช้อนเป็นของตนเอง และสิ่งเหล่านี้เราก็จะต้องปลูกฝังให้ลูกด้วย       และถึงแม้จะเป็นยุค New Normal แต่ทว่าพัฒนาการของลูกก็ยังสำคัญ ทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกาย และการพัฒนาการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรกที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเครียด หรือมีภาระมากขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ก็ยังคงต้องให้เวลา ดูแลและเล่นกับลูก ใส่ใจลูกอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล เกษตร โทร. 02 1500 900

Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset