สาวสีม่วง… ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
05-ต.ค.-2561
title เพราะมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ ของผู้หญิงทั่วโลกรวมถึงผู้หญิงไทย พอดีกับยุคสมัยที่ค่านิยมเรื่อง “การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง” เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ทำให้เกิดคำถามว่า “สาวประเภทสองที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วจะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูกนี้ด้วยหรือไม่” และนี่คือคำตอบที่เราอยากบอกคุณ!!!

ปัจจัยเสี่ยง… ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก

แม้ส่วนใหญ่สาเหตุหลักของการเกิดโรคจะมาจาก “เชื้อไวรัส HPV” แต่ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงนั้นก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น อาจเกิดจากการฉีกขาดของช่องคลอด การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ รวมไปถึงการไม่รักษาสุขอนามัยบริเวณช่องคลอดและอวัยวะเพศของสามี

เมื่อ “ชายแปลงเป็นหญิง” แบบนี้จะมีอวัยวะสืบพันธ์เหมือนหญิงแท้ด้วยหรือเปล่า?

แน่นอนว่าการผ่าตัดแปลงเพศจากชายกลายเป็นหญิงนั้น คือ การที่ศัลยแพทย์ทำการตัดแต่งระบบสืบพันธ์ภายในของผู้ชายให้มีเหมือนกับผู้หญิง เพียงแต่!!! เป็นการใช้ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อหรือตัดต่อจากของเดิม เช่น การสร้างช่องคลอดเทียม โดยการตัดต่อท่อปัสสาวะเพศชาย หรือ ตกแต่งแคมเลียนแบบอวัยวะเพศหญิงจากหนังหุ้มลูกอัณฑะ เป็นต้น

แล้วโอกาสเสี่ยงเป็น “มะเร็งปากมดลูก” ล่ะมีมากน้อยแค่ไหนกัน

โดยทางการแพทย์แล้วยังไม่มีการพบว่า เมื่อผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงแล้วจะก่อให้เกิด “โรคมะเร็งปากมดลูก” ในอนาคต ในทางกลับกัน อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตามเพศสภาพเดิมมากกว่า เนื่องจากในการผ่าตัดแปลงเพศนั้น มีเพียงการตัดลูกอัณฑะออกแต่ยังเหลือต่อมลูกหมาก ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ หรือแม้แต่ในผู้หญิงที่แปลงเพศเป็นชาย ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งรังไข่ได้เหมือนกัน

แม้ว่านวัตกรรมทางด้านศัลยกรรมจะสามารถเปลี่ยนรูปร่างภายในและภายนอกได้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ “โรคร้าย” หายไปได้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นหญิงแท้หรือหญิงเทียม การตรวจสุขภาพเป็นประจำ… จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย!!!

สอบถามรายละเอียด
ศูนย์สุขภาพสตรี อาคาร 1 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 1203-1204