Irritable Bowel Syndrome (IBS) หรือ “โรคลำไส้แปรปรวน”  เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป หรือคนวัยทำงานที่มีพฤติกรรมเสี่ยง แม้ว่าในปัจจุบันจะยังทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าโรค “ลำไส้แปรปรวน”  เกิดจากอะไร แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้ามารับการรักษาหรือตรวจพบอาการของลำไส้แปรปรวน มักมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบต่อ “ระบบทางเดินอาหาร”  คล้ายๆ กัน

เมื่อลำไส้แปรปรวน…อาการจะเป็นยังไง?

โรคลำไส้แปรปรวนเกิดจากความผิดปกติของลำไส้ อาการของโรคจึงเกี่ยวข้องกับการขับถ่าย ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้องน้อยส่วนล่างบริเวณด้านซ้าย และมีการขับถ่ายที่ผิดปกติอยู่เป็นประจำ คือมักจะท้องผูกหรือท้องเสีย หรือทั้งท้องผูกและท้องเสียสลับกัน โดยอาการเหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ และเป็นเรื้อรังมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

พฤติกรรมแบบไหน… เสี่ยงเป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)

แม้ว่าเราจะไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของโรคลำไส้แปรปรวน แต่ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• มีความเครียด ที่ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารหรือลำไส้เกิดความผิดปกติ
• มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น การทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ ไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ ทานอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ออกกำลังกาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้มีอาการลำไส้แปรปรวนได้

จะทำอย่างไร?…ให้ห่างไกลโรคลำไส้แปรปรวน

เมื่อสาเหตุของอาการยังไม่เป็นที่แน่ชัด และแม้อาการของโรคนี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เราก็ไม่ควรทนกับอาการปวดท้องและการขับถ่ายที่ผิดปกติ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเราอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่เราสามารถลดความเสี่ยงหรือลดอาการของโรคลำไส้แปรปรวนได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เช่น
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2. หากิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุข เพื่อการผ่อนคลาย ไม่เครียดสะสม
3. ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาไม่อั้นถ่ายเมื่อรู้สึกปวด
4. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน

5. กินอาหารที่มีประโยชน์ และกินให้ครบ 5 หมู่ ไม่ละเลยการกินผัก ผลไม้


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ อาคาร 1 ชั้น 2

โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

สอบถามเพิ่มเติม

โทร. 02-514-4141 ต่อ 1210