-
อาการปวดคอ...อาการทั่วไปที่หลายคนละเลยจนเป็นเรื้อรัง
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
24-มิ.ย.-2567

อาการปวดคอ...อาการทั่วไปที่หลายคนละเลยจนเป็นเรื้อรัง

อาการปวดคอ เป็นอาการที่พบได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้คนที่มีพฤติกรรมนั่งทำงานอนู่ท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ได้มีการลุกเคลื่อนไหวร่างกาย และหากปล่อยไว้จนอาการปวดคอเข้าสู่ระยะที่รุนแรง คือ รู้สึกปวดร้าวไปยังอวัยวะต่างๆ อาจเป็นสัญญาณของหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณต้นคอเสื่อมแล้วเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคตได้

 


สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ

  • พฤติกรรม อาจเกิดจากพฤติกรรมของกิจวัตรประจำวัน เช่น การนั่งหรือนอนผิดท่า การทำงานที่ต้องก้มหรือเงยเป็นระยะเวลานาน การนั่งขับรถเป็นเวลานาน หรือนั่งเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้มีการขยับร่างกายยืดเส้นยืดสาย
  • ภาวะกระดูกต้นคอเสื่อม เป็นผลจากอายุที่มากขึ้น หรือมีการใช้งานคอที่หนักเกินไป กระดูกคอจึงมีการเสื่อมสภาพลง ขาดความยืดหยุ่น ทำให้หมอนรองกระดูกแยกออกมากดทับเส้นประสาท ซึ่งสาเหตุนี้มักทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปยังไหล่ แขน หรือมือได้
  • เกิดอาการบาดเจ็บที่บริเวณคอ เช่น กระดูกคอหัก หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือเอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้อต่อกระดูกคอเกิดการอักเสบ
  • เกิดการติดเชื้อ อาจเกิดได้จากเชื้อหลายชนิด เช่น วัณโรคหรือแบคทีเรีย ที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคออาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดคอหรือปวดร้าวไปยังแขน หรือมีอาการอ่อนแรงของแขน ขา ร่วมด้วย

 

หากมีอาการเหล่านี้...อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคกระดูกคอเสื่อม

  • อาการปวดคอ เป็นอาการที่พบได้บ่อยและส่วนใหญ่เมื่อเป็นแล้ว อาการจะทุเลาลงภายในไม่กี่วัน แต่หากพบอาการที่ผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัดและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
  • มีอาการปวดคอเป็นๆ หายๆ มากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
  • มีอาการปวดคอ ร่วมกับอาการปวดร้าวบริเวณบ่า หัวไหล่ แขน หรือนิ้วมือ
  • มีอาการชาบริเวณแขน หรือนิ้วมือ หรือรู้สึกว่าแขนหรือมืออ่อนแรง
  • คอเคลื่อนไหวได้น้อยกว่าปกติ และมีอาการเจ็บร่วมด้วย
  • บางครั้งอาจพบจุดกดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นคอและบ่า

 


วิธีรักษาอาการปวดคอ

  1. การรักษาด้วยยา โดยแพทย์จะให้ยาเพื่อบรรเทาตามความรุนแรงของอาการ หรือในบางรายอาจฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อคอเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดคอ
  2. การรักษาด้วยกายภาพบำบัด เช่น
  • การประคบด้วยความร้อนหรือเย็นบริเวณที่มีอาการปวด
  • การใช้เครื่องมือที่ทำให้เกิดความร้อนลึก เช่น Ultrasound หรือ Shortwave Diathermy
  • การดึงคอเพื่อลดการกดทับของเส้นประสาทคอ และลดอาการเกร็งของต้นคอ
  • การนวดบริหารคออย่างถูกวิธี และเหมาะกับสภาพของอาการที่เป็น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ
  1. การรักษาด้วยการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการรากประสาทหรือไขสันหลังถูกกดทับ ใช้ในผู้ที่มีอาการปวดคอเรื้อรัง โดยแพทย์จะใช้การรักษาด้วยวิธีนี้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

 

อาการปวดคอป้องกันได้...หากรู้วิธีอย่างถูกต้อง

การป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับอาการปวดคอ คือ การหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ เช่น

  • หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมนานๆ ควรลุกขยับร่างกายเพื่อให้กล้ามเนื้อได้เกิดการใช้งาน
  • จัดระเบียบอิริยาบถในการนั่ง ยืน หรือนอนให้เหมาะสมและถูกต้อง เช่น หากจำเป็นต้องนั่งทำงานนานๆ ควรให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา หรือควรใช้เก้าอี้ทำงานที่มีที่พักแขน เป็นต้น
  • ควรจัดท่าทางการนอนให้ถูกต้อง โดยหมอนไม่ควรสูงหรือต่ำเกินไป การนอนควรให้คออยู่ในระดับเดียวกับศีรษะ
  • ควรหลีกเลี่ยงการแบกของหนักไว้บนหลังและไหล่ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง
  • หมั่นบริหารกล้ามเนื้อคอ โดยการหมุนคอไปมา แต่ไม่ควรสะบัดคอแรงๆ หรือเร็วเกินไป

 

หากพบว่าตนเองมีอาการปวดคอ หรือมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด เพราะหลายคนมักคิดว่าอาการปวดคอเป็นอาการธรรมดาไม่อันตรายอะไร จึงละเลยและปล่อยไว้ แต่การทำเช่นนี้เป็นการปล่อยให้โรคค่อยๆ เข้าสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น และเมื่อมาพบแพทย์ในภายหลังอาจทำให้โอกาสในการรักษาเป็นไปได้ยากหรือมีทางเลือกในการรักษาน้อยกว่าที่ควรได้

 

บทความโดย
นายแพทย์อนันต์ สัจจะมุนีวงศ์
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ



สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์กระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ 
โทร.02 3632 000 ต่อ 2130-2131

รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่
Line official account : ศูนย์กระดูก PLS
Line ID : @ortho_paolo_pls

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn