หลักการกินอาหาร…ต้าน “นิ่วในถุงน้ำดี”
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
20-ต.ค.-2565
title“นิ่วในถุงน้ำดี” โรคที่มักถูกมองว่าไม่รุนแรงและสามารถรักษาได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? หากเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นจากการที่ก้อนนิ่วหลุดเข้าไปในท่อน้ำดีหรือท่อตับอ่อนแล้ว อาจอันตรายถึงชีวิต!
เราสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ ด้วยการเลือกรับประทาน “อาหาร” ที่เหมาะสม และนี่คือ... หลักการกินอาหารที่ช่วยต้าน “นิ่วในถุงน้ำดี” ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม

ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง “นิ่วในถุงน้ำดี” มีอะไรบ้าง?
  • พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นนิ่วในถุงน้ำดี โอกาสเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
  • ภาวะอ้วน เพราะความอ้วนคือตัวการที่ทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลในน้ำดีเพิ่มขึ้น
  • โรคเบาหวาน ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีแนวโน้มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และน้ำดีจะลดการบีบตัวลงเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะทำให้ตับหลั่งคอเลสเตอรอลมากขึ้น รวมทั้งถุงน้ำดีบีบตัวน้อยลง การตกตะกอนกลายเป็นก้อนนิ่วจึงมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น
  • อาหาร ผู้ที่นิยมทานอาหารประเภทไขมันสูง และไม่ค่อยทานอาหารกากใยสูง คนกลุ่มนี้จะมีโอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้มากกว่า

ปรับวิถีการ(เลือก)กิน เพื่อลดเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี
  • เลือกทานอาหารจำพวกแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
  • เพิ่มปริมาณของผักและผลไม้ให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • เลือกทานเมล็ดธัญพืชต่างๆ ถั่วประเภทที่มีใยอาหารชนิดละลายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด หรืออาหารที่มีไขมันสูง
  • เลือกทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันและย่อยง่าย เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา

แม้ผ่าตัดถุงน้ำดีออกแล้ว “อาหาร” ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเลือก
เพราะตับจะทำหน้าที่ขับน้ำดีออกมาและถูกเก็บไว้ในถุงน้ำดี เพื่อช่วยในการย่อยอาหารประเภทไขมัน เมื่อผู้ป่วยผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกไปแล้ว การปล่อยน้ำดีจะส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวด ไม่สบายท้อง ท้องเสีย โดยเฉพาะหลังมื้ออาหารที่มีอาหารประเภทไขมันสูง ดังนั้น หลักการกินอาหารสำหรับผู้ที่ผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปแล้ว คือควรกินโดยแบ่งการกินออกเป็นมื้อเล็กๆ เพื่อให้ปริมาณน้ำดีที่ขับออกมาเหมาะสมกับปริมาณอาหาร และเน้นกินอาหารประเภทธัญพืช ผัก ผลไม้ โปรตีนที่ไม่ติดมัน หรือมีไขมันเพียงเล็กน้อย เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา พร้อมทั้งเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่าง ชา กาแฟ และน้ำอัดลม

หันมาปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อป้องกันการเกิด “โรคนิ่วในถุงน้ำดี” ก่อนสาย เพราะโรคนี้ไม่ใช่แค่สร้างความเจ็บปวด แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อน โรคนิ่วในถุงน้ำดีก็จะทวีความรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด และอาจทำให้เสียชีวิตได้!


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
คลินิกศัลยกรรม อาคาร 2 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร. 02-514-4141 ต่อ 1102-1105