ปวดท้องไส้ติ่งอักเสบ อาการที่หลายคนมักคิดว่าเป็นอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะ หรือภาวะท้องเสีย กว่าจะรู้ตัวก็เสี่ยงต่อการเกิด “ไส้ติ่งแตก” ที่อันตรายถึงชีวิต หากไม่แน่ใจว่าลักษณะอาการปวดท้องที่เป็นอยู่ เกิดจาก “ไส้ติ่งอักเสบ” หรือไม่? นี่คือข้อสังเกตที่จะช่วยให้คุณรู้คำตอบ

ทำไม? ถึงเกิดภาวะไส้ติ่งอักเสบ

เมื่อ “ไส้ติ่ง” ซึ่งเป็นส่วนของลำไส้ที่ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนต้นตรงบริเวณท้องน้อยด้านขวาเกิดการอุดตัน โดยอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด หรืออาจเกิดจากการอุดตันของเศษอุจจาระแข็งๆ หรือ “นิ่วอุจจาระ” ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งเกิดการแพร่พันธุ์และกระจายไปยังผนังไส้ติ่งจนทำให้เกิดการอักเสบ

สังเกตอาการเบื้องต้น ใช่ “ไส้ติ่งอักเสบ” หรือไม่?

ในระยะแรกเริ่ม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตรงลิ้นปี่หรือรอบๆ สะดือ ทำให้ลักษณะอาการมีความใกล้เคียงกับโรคอื่น เช่น โรคกระเพาะ ที่มักมีอาการปวดแสบลิ้นปี่ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร แต่อาการจะทุเลาลงหลังทานยาลดกรด รวมถึงโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่มักมีอาการปวดบิดเกร็งบริเวณลิ้นปี่และใต้ชายโครงขวา หรือโรคท้องเดินที่มักมีอาการปวดบิดเกร็งเป็นพักๆ รอบสะดือ ร่วมกับอาการถ่ายเหลว แต่ทั้ง 3 โรคนี้ จะไม่มีอาการเจ็บตรงท้องน้อยข้างขวา ดังนั้นหากมีอาการเจ็บท้องน้อยข้างขวา…ให้สงสัยว่าอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบก็เป็นได้

อาการปวดท้องแบบนี้ เสี่ยง “ไส้ติ่งอักเสบ”

ลักษณะอาการปวดท้องที่สังเกตได้อีกอย่างว่าอาจเกิดจาก “ไส้ติ่งอักเสบ” คือ อาการปวดท้องน้อยโดยเฉพาะบริเวณด้านขวา ที่มีลักษณะปวดเสียดตลอดเวลา และเจ็บมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย ปวดติดต่อกันเป็นเวลานาน ปวดแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจมีอาการปวดนานถึง 6 ชั่วโมง และไม่สามารถบรรเทาอาการปวดด้วยการทานยาแก้ปวดได้

“ไส้ติ่งแตก” ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

เราอาจเคยได้ยินบ่อยครั้งถึง “ภาวะไส้ติ่งแตก” ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังไส้ติ่งมีการอักเสบโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที! โดยหลังเกิดการอักเสบ ผนังไส้ติ่งอาจเน่าและแตกทะลุภายใน 24-36 ชั่วโมง และหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาภาวะไส้ติ่งแตกในทันที อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ การรักษา…ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

สมัยก่อนการผ่าตัดไส้ติ่งจะใช้วิธีการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ทำให้หลายคนกังวลจนไม่กล้าไปพบแพทย์ แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดรักษาไส้ติ่งอักเสบ มีการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก โอกาสเกิดพังผืดหลังผ่าตัดและภาวะแทรกซ้อนขณะผ่าตัดมีน้อย ที่สำคัญ คือใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เพียง 1-2 วัน ผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้

เพราะ ไส้ติ่งอักเสบ เกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย เมื่อมีอาการผิดปกติข้างต้น…อย่ามัวหายาทานเอง และคิดว่าเดี๋ยวก็คงหาย แต่ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจหรือผ่าตัดรักษาที่ทันท่วงที เพราะ “ภาวะไส้ติ่งแตก” ไม่ใช่เรื่องเล็ก…ที่น่าเสี่ยงเอาซะเลย!

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
คลินิกศัลยกรรม อาคาร 2 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 
โทร.02-514-4141 ต่อ 1102 – 1105
Line id : @Paolochokchai4