-
โรคภูมิแพ้...อันตรายจากสิ่งใกล้ตัว
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
11-ต.ค.-2565

โรคภูมิแพ้...อันตรายจากสิ่งใกล้ตัว
ปัจจุบันโรคภูมิแพ้ได้กลายเป็นโรคยอดฮิตในประเทศไทยไปแล้ว ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีอีกด้วย โดยอาการของโรคภูมิแพ้มักเป็นๆ หายๆ จึงส่งผลกระทบรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เสมอ โรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงถึงชีวิตหากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ โรคภูมิแพ้ กัน

 

ทำความรู้จักกับ “โรคภูมิแพ้”

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าคนทั่วไป เช่น ไรฝุ่น ควัน ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ แมลงบางชนิด น้ำหอม หรืออาหารบางชนิด ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ในแต่ละคนมักแสดงอาการหรือความรุนแรงที่ต่างกัน เนื่องจากชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ร่างกายได้รับและการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน

 


โรคภูมิแพ้...เกิดจากอะไร?

สาเหตุของโรคภูมิแพ้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

พันธุกรรม : โรคภูมิแพ้ เป็นภาวะที่สามารถถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม โดยพบว่าคนที่มีพ่อแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าครอบครัวที่ไม่มีประวัติของโรคภูมิแพ้ แต่ก็มีภูมิแพ้บางชนิด เช่น โรคลมพิษ และการแพ้จากการสัมผัสจำพวกเครื่องประดับ หรือเครื่องสำอาง ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม

สิ่งแวดล้อม : สิ่งแวดล้อม ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ล้วนมาจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร ฝุ่นควัน สภาพอากาศ ขนสัตว์ แมลงบางชนิด อาหารบางอย่าง ยาต่างๆ หรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ การรับประทาน และการสัมผัส

 

อาการแบบนี้เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดใด?

อาการของโรคภูมิแพ้สามารถแบ่งได้จากระบบภายในร่างกายที่มีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งแต่ละอาการที่แสดงออกมาจะแตกต่างกันไป ดังนี้

  • ภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ : มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ไอ หรือไอเรื้อรัง มีเสมหะ คันคอ แน่นหน้าอก เหนื่อย หอบ หายใจมีเสียงหวีด อากาศเปลี่ยนแล้วไอ ไอมากตอนกลางคืน ไอหลังออกกำลังกาย รวมถึงการเป็นหวัดบ่อย จาม หรือมีน้ำมูกไหลเฉพาะตอนเช้าด้วย
  • ภูมิแพ้ระบบทางเดินอาหาร : มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน สำรอก ปวดท้อง และถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นมูกเลือด
  • ภูมิแพ้ผิวหนัง : มีอาการเป็นผื่นแดงบริเวณผิวหนังตามร่างกาย ผิวแห้งลอก โดยส่วนใหญ่มักเป็นตามข้อพับต่างๆ เช่น ข้อศอก เข่า ข้อพับแขนขาและลำคอ หรือมีอาการลมพิษแบบเป็นๆหายๆ
  • ภูมิแพ้ตา : มีอาการคันตา เคืองตา ตาบวม ตาแดง หรือขยี้ตาเยอะผิดปกติ
  • ภูมิแพ้ทุกระบบ : เป็นอาการที่เกิดอาการแพ้รุนแรง โดยมีอาการหายใจลำบาก ลมพิษขึ้น และอาจถึงขั้นช็อคหรือเสียชีวิต
  • ภูมิแพ้จากอาหาร ยา และสัตว์ : ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นผื่นคันคล้ายลมพิษ ปากบวม หน้าบวม แน่นหน้าอก หรือเป็นลมหมดสติ และมีโอกาสเสียชีวิตได้

 


เป็นโรคภูมิแพ้ ตรวจวินิจฉัยอย่างไร?

หากร่างกายเกิดอาการภูมิแพ้ เราจำเป็นต้องตรวจถึงสาเหตุของโรคภูมิแพ้ว่าร่างกายของผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดใด โดยการตรวจหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้สามารถทำได้ 2 วิธี คือ

ทดสอบทางผิวหนัง : โดยการหยดน้ำยาทดสอบสารก่อภูมิแพ้และสะกิดผิวหนังชั้นบนเพื่อให้สารก่อภูมิแพ้ซึมเข้าไปในผิว หากมีปฏิกิริยาบนร่างกายเกิดขึ้นก็จะทราบถึงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีทดสอบเพื่อให้ทราบถึงสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลต่อผู้ป่วยได้แม่นยำและทราบผลได้เร็วอีกด้วย 

ทดสอบด้วยการเจาะเลือด : โดยการเจาะเอาเลือดของผู้ป่วยไปตรวจวินิจฉัย ซึ่งวิธีนี้จะใช้ในสภาวะที่ไม่สามารถทดสอบทางผิวหนังกับผู้ป่วยได้ เช่น ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ที่รุนแรงถึงขั้นช็อก หรือผู้ป่วยที่ไม่มีผิวหนังชั้นนอกที่มากพอที่จะทดสอบทางผิวหนัง

 

โรคภูมิแพ้หายได้...หากรักษาอย่างถูกต้อง

หลังจากการตรวจวินิจฉัยแล้ว แพทย์จะทำการรักษาด้วยยา โดยตัวยาจะมีทั้งยาชนิดรับประทานและชนิดพ่น ซึ่งการรักษาด้วยยาสามารถรักษาได้ตามอาการที่เกิดการแพ้ เพื่อบรรเทาหรือระงับอาการแพ้ที่เกิดขึ้น เช่น หากผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก อาจต้องใช้ยาชนิดรับประทานเพื่อลดการคัดจมูก หากมีอาการคัดจมูกเรื้อรัง อาจต้องใช้ยาพ่นจมูก แต่ถ้าเกิดใช้การรักษาชนิดยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ โดยการฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปทีละนิด และเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา จนถึงระดับที่ป้องกันได้แล้วจึงหยุดฉีด ทั้งนี้เมื่อหยุดฉีดแล้วโรคภูมิแพ้ในบางคนอาจดีขึ้นหรือหายไป แต่ในบางรายอาจกลับมาเป็นได้อีก

 


วิธีป้องกันที่ดีที่สุดอยู่ที่ตัวเราเอง

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองสัมผัสหรือรับสารที่ทำให้ก่อภูมิแพ้
  • หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
  • ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

บทความโดย
นายแพทย์ณัฏฐ์ บุญตะวัน
แพทย์ประจำสาขาอายุรกรรม
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

 โรคปอดอักเสบ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
 ตรวจประเมินสุขภาพก่อนร่างกายแสดงอาการ
 ทำไมเราถึงต้องตรวจสุขภาพทุกปี




สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนก อายุรกรรมทั่วไป
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2390-2393
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดี ๆ ได้ที่
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn