-
พัฒนาการของลูกน้อยที่ควรรู้...เพื่อการเติบโตที่สมบูรณ์
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
15-ม.ค.-2568

พัฒนาการของลูกน้อยที่ควรรู้...เพื่อการเติบโตที่สมบูรณ์

พัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยไม่เพียงแค่สะท้อนถึงการเติบโตทางกายภาพ แต่ยังเกี่ยวพันกับการพัฒนาสมอง อารมณ์ และทักษะทางสังคมที่เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต การเข้าใจความต้องการและธรรมชาติในแต่ละช่วงวัย ช่วยให้พ่อแม่พัฒนาลูกได้อย่างเหมาะสมเต็มศักยภาพ และสร้างเส้นทางการเติบโตที่สมบูรณ์สำหรับลูกน้อย

 


วัยแรกเกิด - 1 ปี

ช่วงวัยนี้เป็นพื้นฐานของการพัฒนาประสาทสัมผัส การเคลื่อนไหว และความสัมพันธ์แรกของลูกน้อยกับโลกภายนอก

 

พัฒนาการที่สำคัญ

ประสาทสัมผัส :

  • การมองเห็น : ในเดือนแรก ลูกจะมองเห็นระยะใกล้และสนใจใบหน้าของคนมากที่สุด
  • การได้ยิน : ลูกสามารถจดจำเสียงของแม่ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และตอบสนองต่อเสียงเพลงหรือเสียงพูด
  • การสัมผัส : การลูบสัมผัสร่างกายหรือกอดช่วยเสริมสร้างความรู้สึกปลอดภัย

การเคลื่อนไหว :

  • ช่วงแรก ลูกจะเริ่มยกศีรษะและพลิกตัว
  • เมื่ออายุประมาณ 6 เดือน จะเริ่มนั่งเองได้ และคลานในช่วง 9-12 เดือน

อารมณ์และความผูกพัน :

  • ลูกจะแสดงความไว้วางใจต่อผู้ดูแลผ่านการยิ้มและการตอบสนองเมื่อได้รับการกอด

 

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

  • กอดและอุ้มลูกบ่อยๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางจิตใจ
  • กระตุ้นประสาทสัมผัสด้วยการพูดคุย ร้องเพลง หรือเล่นของเล่นที่มีสีสันสดใส
  • หมั่นสังเกตพัฒนาการ เช่น มองหน้าสบตา การยิ้ม การจับสิ่งของ การเริ่มคลาน และเข้าใจภาษาง่ายๆ ได้

 


วัย 1-3 ปี

ในวัยนี้ ลูกจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เริ่มพูดคำง่ายๆ และเรียนรู้การแสดงออก ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองในการปลูกฝังพฤติกรรมและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์

 

พัฒนาการที่สำคัญ

การเคลื่อนไหว :

  • เริ่มเดินเมื่ออายุประมาณ 12-15 เดือน และพัฒนาสู่การวิ่ง ปีนป่าย และกระโดด
  • การใช้มือเริ่มประณีต เช่น การจับดินสอหรือช้อน

การพัฒนาภาษา :

  • เริ่มพูดคำศัพท์ง่ายๆ และเรียนรู้คำใหม่อย่างรวดเร็ว
  • ช่วงอายุ 2 ปี เด็กสามารถพูดประโยคสั้นๆ และแสดงความต้องการของตัวเอง

การพัฒนาทางสังคม :

  • เริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเอง เช่น การพูดว่า "ไม่" หรือแสดงอารมณ์เมื่อไม่พอใจ
  • เรียนรู้การเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่

 

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

  • ใช้คำพูดง่ายๆ พร้อมท่าทางช่วยอธิบาย เพื่อกระตุ้นการพัฒนาภาษา
  • ส่งเสริมการเล่นเพื่อเรียนรู้ เช่น การเล่นบทบาทสมมติ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง
  • หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป (ก่อนอายุ 2 ปี ไม่แนะนำการใช้จอ)

 


วัย 3-5 ปี

เด็กวัยนี้เริ่มเข้าสังคมและเรียนรู้ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความมั่นใจและความสามารถในการเคลื่อนไหวจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 

พัฒนาการที่สำคัญ

การพัฒนาทักษะกายภาพ :

  • ลูกจะมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว เช่น การปั่นจักรยานสามล้อหรือกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง
  • เริ่มเรียนรู้การควบคุมมือ เช่น การตัดกระดาษหรือระบายสี

การพัฒนาทางสังคม :

  • เริ่มเล่นกับเพื่อนและเรียนรู้การแบ่งปัน รู้จักการรอคอย
  • เข้าใจบทบาทและความสัมพันธ์ในครอบครัว

จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ :

  • เด็กวัยนี้จะเล่นบทบาทสมมติที่ซับซ้อนมากขึ้น มีเรื่องราวได้ เช่น เป็นหมอ ครู หรือฮีโร่
  • ชอบฟังนิทานและเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ

 

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

  • สนับสนุนให้ลูกเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม เช่น เล่นกับเพื่อนหรือเข้าชั้นเรียนเสริมทักษะ
  • ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน เช่น การใส่เสื้อผ้าหรือเก็บของเล่น
  • จัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้ลูกได้สำรวจและเล่นอย่างอิสระ

 


วัย 6-12 ปี

วัยนี้เป็นช่วงที่ลูกเริ่มพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง และสร้างรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ เมื่อเข้าสู่วัยเรียน เด็กจะเริ่มพัฒนาทักษะที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งการแก้ปัญหา การอ่านเขียน และความคิดเชิงเหตุผล

 

พัฒนาการที่สำคัญ

สติปัญญาและการเรียนรู้ :

  • ลูกจะพัฒนาทักษะการคิดเชิงเหตุผลและการแก้ปัญหา
  • เรียนรู้เรื่องต่างๆ ในโรงเรียน เช่น การคำนวณและการเขียน

ทักษะทางสังคม :

  • ลูกจะเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน เริ่มมีกลุ่มเพื่อนที่สนิท หรือมีเพื่อนที่ชอบกิจกรรมที่เหมือนกัน
  • เรียนรู้การจัดการความขัดแย้ง

การพัฒนาทางอารมณ์ :

  • เข้าใจอารมณ์ของตัวเองและเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
  • มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

 

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

  • จัดหาหนังสือหรือกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความสนใจเฉพาะตัวของลูก
  • สร้างนิสัยการเรียนรู้ที่ดี เช่น การทำการบ้านและการตั้งเป้าหมาย
  • ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
  • ฝึกระเบียบวินัย และการจัดตารางเวลากิจกรรมของตนเอง
  • ควบคุมการใช้สื่ออิเลกทรอนิกส์ไม่เกิน 2 ชั่วโมง/วัน


การเข้าใจพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยช่วยให้พ่อแม่สามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงทั้งกาย ใจ และสมองสำหรับลูกน้อย ทุกการดูแลที่พ่อแม่มอบให้ในวันนี้ คือการสร้างอนาคตที่สดใสให้กับลูกในวันหน้า

 

 

บทความโดย

แพทย์หญิงภาวิณี ธีรการุณวงศ์

แพทย์ประจำสาขากุมารเวชทั่วไป

โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ




สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม

แผนก กุมารเวชกรรม อาคาร 1 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร 02-363-2000 ต่อ 2209-2210
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn