โรคจูบ (Kissing Disease)
โรคจูบ หรือ โรคโมโนนิวคลิโอซิส เกิดจากไวรัสเอ็บสไตบาร์ ( Epsterin Barr Virus หรือ EBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ได้จำกัดการแพร่เชื้อแค่การสัมผัส การจูบ แต่ติดต่อได้ง่ายจากสารคัดหลั่ง เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง เมื่อมีคนอื่นเข้ามาสัมผัส หรือ หอมแก้มลูกน้อยของคุณ ก็สามารถติดโรคนี้ได้แล้ว ไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ที่สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้จาก การไอ จาม การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ มีดโกน แม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยก็สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้แล้ว
อาการเป็นอย่างไรนะ?
เจ้าโรคนี้ลักษณะคล้ายกับไข้หวัดทั่ว ๆ ไป ระหว่างผู้ติดเชื้อ EB ไวรัส แยกจากอาการค่อนข้างยาก ต้องตรวจจากเลือด เมื่อเราได้รับเชื้อแล้ว อาการจะแสดง 2-3 สัปดาห์ต่อมา และเชื้อจะยังติดอยู่กับเราไปตลอดชีวิต แม้เราจะรู้สึกว่าร่างกายปกติดี แต่เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายอ่อนแอ เข้าเชื้อไวรัสนี้จะกลับมากำเริบอีก
มีอาการดังนี้
- เป็นไข้
- เจ็บคอ
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ
อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 3-4 วัน โดยไม่ต้องใช้ยารักษา แต่ในรายที่เป็นหนักจนเกิดอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอใหญ่ขึ้นจนสังเกตได้ ม้ามโต ตับโต มีจุดสีขาวขึ้นบนต่อมทอนซิล และควรระวังโรคแทรกซ้อน เช่น
- ดีซ่าน
- ตับอักเสบ
- โลหิตจาง
- หายใจไม่ออก
ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
การป้องกัน ไวรัส EB
ข่าวร้ายสำหรับเจ้าไวรัสนี้ คือ เรายังไม่มีวัคซีนป้องกันแม้ไวรัสนี้จะเกิดขึ้นมาบนโลกนี้นานมากแล้ว แต่เราสามารถป้องกันตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการ
- กินร้อน ทานอาหารที่ปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ
- ช้อนกลาง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้อื่น ที่เราหรือเขาอาจไม่รู้ตัว ด้วยการใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน
- ล้างมือ ให้สะอาดอยู่เสมอ ล้างให้บ่อย ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
ในปัจจุบัน ในเมืองไทยของเรายังพบผู้ที่เป็นโรคนี้ในจำนวนน้อยที่มาก พื้นที่แพร่ระบาดหนักจะเป็นแถบทวีปยุโรป และ อเมริกาเหนือ บ้านเราโรคที่คล้ายคลึงและควรระวังเช่นกัน คือ
โรคเริม นั่นเองที่เราจะนำเสนอในบทความครั้งต่อไป
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก
นพ.วีระยุทธ บุญเกียรติเจริญ
แผนกตรวจสุขภาพ ประจำโรงพยาบาลเปาโลรังสิต
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111