สังเกตให้ดี…ลูกเป็น “ไข้หวัด” หรือ “ไข้หวัดใหญ่” กันแน่
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
05-ม.ค.-2566
title “โรคไข้หวัดใหญ่”  เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบได้บ่อยทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ โดยจะมีการระบาดมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว บางรายที่อาการรุนแรงก็จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อการรักษาและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ โดยเฉพาะในเด็กที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ และเด็กๆ เองก็มีการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เช่น ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียน ทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคง่ายขึ้น


เรารู้จัก “ไข้หวัดใหญ่” ดีหรือยัง?
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากไวรัส 
“อินฟลูเอนซา” ที่มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ทั้งเอ บี และซี แต่ที่พบการระบาดอยู่บ่อยๆ และทำให้เกิดความรุนแรงของอาการคือ สายพันธุ์เอ เช่น สายพันธุ์ H1N1 H5N1 โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่ผ่านการสัมผัสกับละอองฝอยที่อยู่ในอากาศ หรือสารคัดหลั่ง ทั้งน้ำมูก น้ำลาย หรือการไอจามใส่กัน ก็เป็นสาเหตุให้ที่ทำให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้


ไข้หวัด VS ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร ?

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจสับสนกับอาการที่ลูกน้อยกำลังเผชิญว่าเป็นแค่ 'ไข้หวัดธรรมดา' หรือ 'ไข้หวัดใหญ่' กันแน่ ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการไข้หวัดใหญ่ได้จากความแตกต่างของอาการ คือ ไข้หวัดใหญ่มักจะมีไข้สูงมาก คัดจมูก เจ็บคอ ปวดหัวมาก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย สำหรับอาการในเด็กเล็กอาจมีอาการที่รุนแรงกว่า หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือติดเชื้อแทรกซ้อน เพราะร่างกายของเด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ไม่มากพอ แต่... สำหรับไข้หวัดธรรมดานั้นอาการไข้จะน้อยกว่า และมักมีแค่น้ำมูกไหลกับอาการไอร่วมด้วย เท่านั้น


เมื่อลูกเป็นไข้หวัดใหญ่…
หลังจากที่ลูกเริ่มมีอาการของไข้หวัดใหญ่แล้ว สิ่งแรกที่พ่อแม่ต้องทำเลยคือ ให้เด็กนอนพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำให้เพียงพอ และกินยาลดไข้อย่างน้อยทุกๆ 6 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะโรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ดังนั้นการให้ยาปฏิชีวะจึงไม่มีผล นอกจากว่าเด็กจะมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งถ้าหากลูกมีอาการหนัก อย่างเช่น มีไข้สูง กินอาหารไม่ได้ ไอเยอะ มีเสมหะข้นสีเหลืองหรือสีเขียว ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอาการเพิ่มเติม แต่ถ้าหากลูกน้อยของคุณมีอายุน้อยกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้สูง ไอจนเหนื่อย ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะเด็กอายุน้อยมักเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือมีโรคประจำตัวอยู่


ไข้หวัดใหญ่… กันไว้ดีกว่าแก้
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการสัมผัส หรือการสูดเอาละอองหรืออากาศที่มีเชื้อไวรัสกระจายอยู่เข้าไป ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ลูกน้อยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือ การไม่ให้ลูกไปคลุกคลีอยู่กับผู้ที่มีอาการป่วย หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หรือหากต้องอยู่ในที่แออัด หรือต้องเข้าใกล้ผู้ที่ป่วยควรสวมผ้าปิดปากหรือหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ


และอีกหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดีคือ “การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่” ซึ่งสามารถฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป โดยการฉีดในแต่ละครั้งจะสามารถป้องกันโรคได้นานถึงหนึ่งปี และช่วงเวลาที่ควรฉีด คือช่วงก่อนเข้าฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่มากที่สุด


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช  อาคาร 3 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

โทร. 02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4