โรคปอดบวม...ภัยร้ายใกล้ตัวเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าระวัง

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศที่เย็นลงมักมาพร้อมกับโรคต่างๆ เช่น โรคไข้หวัด โรคหัด โรคอุจจาระร่วง  และโดยเฉพาะโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ ที่พบว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยมีสาเหตุมาจากทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งแบคทีเรียที่พบบ่อยมีชื่อว่า “นิวโมคอคคัส”

 

มารู้จัก “เชื้อนิวโมคอคคัส” กันมากขึ้น

เชื้อนิวโมคอคคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบได้ โดยเชื้อตัวนี้มักอาศัยอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของเด็ก ในประเทศไทยมีสายพันธุ์ที่พบบ่อยอยู่ 13 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่พบบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ คือ สายพันธุ์ 19A ทั้งยังมีการรักษาที่ยากขึ้นเนื่องจากมีอาการดื้อยา

              ทั้งนี้ เชื้อนิวโมคอคคัสยังสามารถกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ ส่งผลให้เด็กๆ ป่วยเป็นโรค IPD ซึ่งเป็นโรคที่รุนแรงได้ โดยจะทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือในเด็กบางรายอาจเป็นหูชั้นกลางอักเสบ แม้อาการอาจไม่รุนแรง แต่มักพบได้บ่อย

 

ติดต่อกันได้อย่างไร?

การแพร่กระจายของเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้ผ่านการหายใจรดกัน ไอ จาม หรือการรับเอาเชื้อเข้าไปในร่างกายโดยตรงด้วยวิธีใดก็ตาม โดยตัวเชื้อมักอยู่ในน้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย ทำให้มีโอกาสติดเชื้อกันได้ง่ายในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี เช่น โรงเรียนอนุบาล หรือNursery

 

สังเกตให้ไว! อาการแบบไหนเสี่ยงปอดบวม

• มีไข้
• ไอมีเสมหะ
• หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
• มีอาการเจ็บหน้าอก
• เบื่ออาหาร ไม่ยอมดูดนมหรือน้ำ
• อาเจียน
• ชัก หรือซึม

หากเกิดขึ้นในเด็กที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงอาจส่งผลให้มีอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นจนมีโอกาสเสียชีวิต หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้

 

ใครบ้าง! เสี่ยงเป็นโรคปอดบวม

• เด็กแรกเกิด - อายุ 5 ปี
• เด็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• เด็กที่เป็นโรคหอบหืด
• เด็กที่ได้รับควันบุหรี่จำนวนมาก
• เด็กที่คลอดก่อนกำหนด (น้ำหนักตัวแรกคลอดน้อยกว่า 2,500 กรัม)
• เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคลมชัก เป็นต้น
• เด็กเล็กที่ถูกเลี้ยงใน Nursery หรือโรงเรียนอนุบาล

 

ป้องกันอย่างไร...ให้ไกลปอดบวม

• ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือน้ำสะอาด
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด
• หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโรค เช่น ควันจากบุหรี่ ควันไฟหรือไอจากรถยนต์
• ให้ลูกทานนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก
• รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
• ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีน IPD เป็นต้น

 

หากสงสัยว่าเด็กมีอาการที่อาจจะเป็นโรคปอดบวม ควรรีบพาเด็กพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ดีการป้องกันไว้ก่อน ย่อมดีกว่าการรักษา ดังนั้นควรหมั่นดูแลสุขภาพและสังเกตร่างกายของลูกน้อยในช่วงที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ