-
อาการเลือดออกในทางเดินอาหาร...สัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย
สีของอุจจาระของเรา หากสังเกตดีๆ ก็จะสามารถระบุอาการของโรคบางโรคได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากสีของอุจจาระหรือลักษณะของอาเจียน โดยหากปล่อยอาการไว้ไม่ทำการรักษา อาจส่งผลให้ชีพจรเต้นเร็ว หมดสติ และช็อกได้
อุจจาระแบบไหน ส่ออาการ “เลือดออกในทางเดินอาหาร”
หากพบว่าอุจจาระมีสีดำหรือมีสีแดงเลือดสดปนออกมาด้วย ก็อาจเป็นไปได้ว่า มีสาเหตุมาจากอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ หรือทวารหนัก ส่วนอาการอาเจียนแล้วมีเลือดสีแดงสดหรือสีดำเข้มปนมาด้วย ร่วมกับมีอาการปวดท้อง อาจเกิดจากระบบทางเดินอาหารผิดปกติได้เช่นเดียวกัน และหากมีเลือดออกปนมามากจนผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยทันที เพราะหากเสียเลือดในปริมาณมากจะทำให้ระบบการหมุนเวียนเลือดในร่างกายผิดปกติ จนร่างกายเข้าสู่ภาวะวิกฤตได้
สาเหตุของอาการเลือดออกในทางเดินอาหาร
มักเกิดได้หลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับบริเวณและตำแหน่งของอวัยวะที่มีเลือดออก เช่น เกิดภาวะมีกรดในกระเพาะมากเกินไป ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการกรดไหลย้อนร่วมด้วย จึงยิ่งทำให้หลอดอาหารอักเสบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อาการเลือดออกในทางเดินอาหารยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น
เลือดออกในทางเดินอาหาร...มีขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยอย่างไร?
ขั้นตอนที่ 1. แพทย์จะทำการตรวจเลือด ลักษณะของเส้นเลือด การทำงานของตับ ตรวจสีและลักษณะของอุจจาระ เพื่อหาความผิดปกติของเลือดที่ปนออกมา
ขั้นตอนที่ 2. แพทย์จะใช้วิธีการอย่างละเอียด ซึ่งประกอบไปด้วย
เลือดออกในทางเดินอาหาร...การรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล
กระบวนการรักษาภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารจะขึ้นอยู่กับอาการและโรคประจำตัวของผู้ป่วยแต่ละราย โดยการรักษาสามารถแบ่งออกได้หลายวิธี ดังนี้
เพื่อเป็นการลดกรดในกระเพาะ ไม่ให้มีมากเกินไปจนไปกัดแผลในกระเพาะ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมถึงการให้ยากำจัดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร (Helicobacter pylori) ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลซ้ำ
จะให้ตามลักษณะอาการของผู้ป่วยเพื่อไม่ให้เสียเลือดมากเกินไป แต่ในผู้ป่วยที่มีการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด จำเป็นต้องหยุดการใช้ยาทันทีเพื่อดำเนินการรักษาต่อไป
ในผู้ป่วยที่เสียเลือดมากจนอยู่ในภาวะวิกฤต อาจทำให้มีอาการช็อก และเกิดภาวะไตวายได้ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีส่องกล้องอาจมีการใช้ยาฉีดผ่านเข็มที่ใช้สอดกล้องเข้าไป ใช้ความร้อนจี้บริเวณที่มีเลือดออก และใช้คลิปหนีบหลอดเลือดเพื่อห้ามเลือด หรือการใช้ห่วงยางรัดหลอดเลือด
การส่องกล้องทางเดินอาหารดีอย่างไร?
การส่องกล้องทางเดินอาหาร นอกจากจะเป็นการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจนและละเอียดแล้ว การตรวจด้วยวิธีนี้แพทย์จะสามารถวิเคราะห์โรคในขณะส่องกล้องได้ในทันที หากพบจุดที่มีเลือดออกก็สามารถใช้ความร้อนจี้ห้ามเลือดได้ และในกรณีที่แพทย์ตรวจพบความผิดปกติในส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหารก็สามารถตัดชิ้นเนื้อออกมานำส่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ หากเป็นเพียงติ่งเล็กๆ ก็สามารถทำการรักษาได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดแผลผ่านทางช่องท้องอีก
ฉะนั้น หากไม่อยากเกิดภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารจนร่างกายเสื่อมสภาพ การดูแลร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ร่วมกับตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ เพื่อรู้ทันสัญญาณเตือนของร่างกายได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะสายเกินรักษา