-
อาการปวดหน้าแข้ง โรคยอดฮิตกวนใจในหมู่นักวิ่ง
อาการปวดหน้าแข้ง หรือที่เรียกว่า ‘โรคกล้ามเนื้อหน้าแข้งอักเสบ’ เป็นอาการที่เกิดได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ที่ออกกำลังกายหนัก มีการใช้แรงขาหักโหมอย่างนักวิ่ง ซึ่งอาการปวดหน้าแข้งนี้ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง วันนี้ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดหน้าแข้งมาฝาก เพื่อเราจะได้รู้วิธีป้องกัน ลดความเสี่ยง และเข้าถึงการรักษาที่ถูกต้อง
สาเหตุของอาการปวดหน้าแข้ง
สาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดหน้าแข้ง ส่วนใหญ่มักมาจากการออกกำลังกายอย่างหนัก จนเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือเนื้อเยื่ออ่อนรอบกระดูก โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดหน้าแข้ง มีดังนี้
อาการปวดหน้าแข้งแบบไหน? ที่ควรพบแพทย์!
โดยทั่วไป อาการปวดหน้าแข้งจะรู้สึกปวดบริเวณหน้าแข้ง กดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าแข้งแล้วรู้สึกเจ็บ หรือปวดตุบๆ ตามจังหวะของชีพจร ซึ่งหากได้รับการพักฟื้น หรือออกกำลังกายแล้วประคบเย็น อาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ แต่หากมีอาการปวดหน้าแข้งเกิน 3 วัน หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น หน้าแข้งบวมอย่างเห็นได้ชัด มีแผล มีรอยช้ำ รู้สึกชา หรือแรงขาอ่อนล้าจนไม่สามารถเดินได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการอย่างละเอียด และรับการรักษาอย่างถูกต้อง
อาการปวดหน้าแข้ง แค่ดูแลให้ดี...รักษาได้
เมื่อมีอาการปวดหน้าแข้งจากการออกกำลังกายหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรงนัก อาจดูแลตนเองเบื้องต้นได้ดังนี้
ทั้งนี้ เมื่อมีอาการบาดเจ็บ ปวดหน้าแข้ง หรือเกิดความผิดปกติที่ผิดสังเกต ดูแลตัวเองแล้วไม่หาย อย่าปล่อยความสงสัยไว้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษา และฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอย่างถูกวิธี
บทความโดย
นายแพทย์ กษิดิศ ศรีจงใจ
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ