โรคฉี่หนู…แค่ลุยน้ำท่วมครั้งเดียว ก็เสี่ยงอันตราย!

เมื่อฝนตกหนัก น้ำท่วมขังมักจะเป็นปัญหาที่เราเห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนเมืองและชนบท ที่มักมีการระบายน้ำไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ง่าย โดยน้ำท่วมขังที่ดูเหมือนไม่อันตรายเหล่านี้ อาจแฝงไปด้วยโรคร้ายที่หลายคนคาดไม่ถึงอย่าง “โรคฉี่หนู” ที่แค่เดินผ่านน้ำท่วมขังก็อาจเสี่ยงติดโรคนี้ไปได้

 

โรคฉี่หนูคืออะไร? ทำไมต้องกลัว?

โรคฉี่หนู (Leptospirosis) คือโรคที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “เลปโตสไปโรซิส” มักพบในปัสสาวะของสัตว์หลายชนิด เช่น หนู วัว สุกร สุนัข หรือสัตว์ป่า ซึ่งเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ปะปนอยู่ในน้ำท่วมขัง โคลน ดินเปียก หรือพื้นผิวที่ชื้น หากมีการเดินผ่านสิ่งเหล่านี้ โดยที่มีบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายได้ทันที

 

เสี่ยงแค่ไหนหากสัมผัสเพียงครั้งเดียว?

หลายคนอาจคิดว่า แค่เดินลุยน้ำท่วมขังเพียงครั้งเดียว ไม่น่าจะเป็นอะไรได้ แต่ความจริงคือ แค่สัมผัสครั้งเดียวก็เสี่ยงแล้ว! โดยเฉพาะในผู้ที่มีรอยแผล หรือรอยขีดข่วนบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับน้ำท่วมขัง เชื้อแบคทีเรีย Leptospira จะมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการติดเชื้อในไม่กี่วัน

 

อาการของโรคฉี่หนู

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้โรคฉี่หนูมีความอันตรายก็คือ อาการที่คล้ายไข้หวัดธรรมดา ทำให้หลายคนอาจไม่ทันสังเกตและปล่อยผ่านไป ซึ่งอาการที่พบบ่อยๆ ได้แก่

• มีไข้สูง
• ปวดหัว
• ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณน่องและหลัง
• ตาแดง
• คลื่นไส้ อาเจียน

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา โรคฉี่หนูสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอื่นๆ ได้ เช่น เชื้อแบคทีเรียอาจแพร่กระจายไปสู่ตับ ไต หรือปอด ทำให้เกิดภาวะตับวาย ไตวาย หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจเสียชีวิตได้!

 

ป้องกันได้ไม่ยาก...หากระมัดระวังตัวเอง

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขัง หรือหากจำเป็นต้องลุยน้ำ ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น รองเท้าบูท หรือถุงมือ
• หากมีบาดแผลหรือรอยขีดข่วน ควรดูแลแผลให้สะอาดและปิดให้มิดชิด
• หลังจากลุยน้ำท่วมขัง ควรล้างทำความสะอาดร่างกายทันทีด้วยน้ำสบู่
• หากมีอาการผิดปกติหลังจากสัมผัสน้ำท่วมขัง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้ ควรควบคุมและกำจัดสัตว์พาหะอย่างหนูท่อที่เป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรียเลปโตสไปโรซิส และควรดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนเชื้อ

 

การดูแลรักษาโรคฉี่หนู

หากมีอาการสงสัยว่าเป็นโรคฉี่หนู ควรรีบไปพบแพทย์ทันที โดยแพทย์จะวินิจฉัยโดยการตรวจเลือดหรือปัสสาวะ ซึ่งหากพบว่าติดเชื้อ แพทย์จะทำการรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ยิ่งรักษาเร็วเท่าไร ก็ยิ่งลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และเพิ่มโอกาสที่จะหายได้มากขึ้น

 

แม้ "โรคฉี่หนู" เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังมาก เพราะแค่สัมผัสครั้งเดียวก็อาจเสี่ยงติดเชื้อได้ ดังนั้นการรู้เท่าทันภัยและปฏิบัติตามคำแนะนำการป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ