-
ข้อเข่าเสื่อม ฉีด PRP ช่วยได้!
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
19-เม.ย.-2566

ข้อเข่าเสื่อม ฉีด PRP ช่วยได้!

อาการปวดข้อเข่า มีเสียงดังในข้อ หรือรู้สึกติดขัดบริเวณหัวเข่าเมื่อลุก นั่ง หรือเดิน เป็นอาการที่หลายคนกำลังประสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย และเมื่อมีอาการปวดหัวเข่า คนส่วนหนึ่งอาจใช้การรักษาด้วยการซื้อยามากินเอง ทำให้พอบรรเทาปวดไปได้ในระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดอาการปวดเหล่านั้นก็มักจะกลับมา แถมยังเป็นมากขึ้นและปวดมากขึ้นอีกด้วย

จะดีกว่าไหม? หากเราใช้วิธีการรักษาที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และผลข้างเคียงก็น้อยกว่าการกินยาในปริมาณมากๆ เป็นประจำ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการรักษาอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยการฉีด PRP หรือ Platelet Rich Plasma กัน

 


ข้อเข่าเสื่อม...โรคข้อเข่าที่ต้องเข้าใจ

ข้อเข่าเสื่อม อาการที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักมาเป็นประจำ ส่งผลให้กระดูกอ่อนที่รองรับน้ำหนักตัวของผู้ป่วยเกิดการยุบตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้กระดูกข้อต่อเกิดการเสียดสีกันมากขึ้น จนเกิดการสึกกร่อนของข้อเข่า จึงเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดบริเวณหัวเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือใช้งานข้อเข่า โดยระยะความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 ผู้ป่วยยังสามารถเคลื่อนไหวหรือใช้งานหัวเข่าได้ตามปกติ แต่หากมีการใช้งานบริเวณหัวเข่าหนักเกินไป จะเริ่มมีอาการปวดขึ้นมา

ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มใช้งานหนักบริเวณเข่ามากไม่ได้แล้ว

ระยะที่ 3 ในระยะนี้ อาการปวดเข่าจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย เริ่มทำกิจวัตรประจำวันตามปกติไม่ได้

ระยะที่ 4 เป็นระยะที่ผู้ป่วยเริ่มเดินไม่ไหว จะรู้สึกปวดเข่าตลอดเวลาแม้ไม่ได้ขยับร่างกาย หรือจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการพยุงตัวขณะเดิน

 

การฉีด PRP คืออะไร?

PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือ การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่ได้จากการนำเลือดของตัวผู้ป่วยเพียงเล็กน้อย มาทำการปั่นเพื่อแยกจนได้เป็นพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วนำไปฉายแสง (Photoactivation) จากนั้นแพทย์จะฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด และลดการอักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูก และเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ในบริเวณนั้นๆ เป็นการเร่งกระบวนการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมาดีได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย


ข้อดีของการรักษาด้วยการฉีด PRP

เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยเองมาใช้ จึง...

  • มีผลข้างเคียงน้อยหรือแทบไม่มีเลย
  • ลดโอกาสการเกิดอาการแพ้ และภาวะแทรกซ้อนได้มาก
  • รักษาได้ตรงจุด
  • ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
  • มีความปลอดภัยสูง
  • ไม่เกิดรอยแผลเป็น

 


การฉีด PRP เหมาะกับอาการแบบไหน และกับใคร?

  • อาการที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็น ข้อต่อ และกล้ามเนื้อต่างๆ
  • อาการเสื่อมของข้อเข่าในระยะที่ 1 และ 2
  • ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่เคยได้รับการรักษาด้วยวิธีกินยา หรือทำกายภาพบำบัดแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น

ทั้งนี้ การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP จะได้ผลดีที่สุด เมื่อผู้ป่วยมีอาการอยู่ในระยะที่ 1 หรือ 2 หากพ้นระยะนี้ไป อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

 

PRP ใช้รักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บประเภทใดได้บ้าง?

เพราะการฉีด PRP จะช่วยลดความเจ็บปวด และช่วยกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บได้ดี จึงนิยมใช้รักษาโรคกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ซึ่งสามารถรักษาได้หลายโรค เช่น

  • โรคข้อเข่าเสื่อม
  • เอ็นไหล่ฉีกขาด
  • เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าบาดเจ็บ
  • ปุ่มกระดูกข้อศอกด้านนอกบาดเจ็บ
  • ข้อเท้าเคล็ด ขัด ยอก
  • เอ็นกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อพังผืดอักเสบ
  • เอ็นกล้ามเนื้อเคล็ด คัด ยอก

 

ดังนั้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวกับข้อ เอ็น และกล้ามเนื้อ การรักษาด้วยวิธีฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น หรือ PRP ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นได้

 

และเนื่องจากเป็นการใช้เลือดของตัวผู้ป่วยเอง อีกทั้งยังมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ได้ผลการรักษาที่ตรงจุด การฟื้นตัวก็ไว จึงทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการผ่าตัด ดังนั้นหากผู้ป่วยยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดหรืออาการยังอยู่ในระดับที่รักษาด้วยการฉีด PRP แล้วได้ผลดี การรักษาด้วยวิธีนี้ก็นับว่าได้ประโยชน์สูงมากทีเดียว

บทความโดย
นายแพทย์ กษิดิศ ศรีจงใจ 
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ




สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์กระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ 
โทร.02 3632 000 ต่อ 2130-2131

รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่
Line official account : ศูนย์กระดูก PLS
Line ID : @ortho_paolo_pls

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn