ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Minineral Density) ป้องกันอันตรายจากภาวะกระดูกพรุน

ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density) ป้องกันอันตรายจากภาวะกระดูกพรุน 

การเสื่อมสภาพของกระดูก เป็นสิ่งที่เรามักไม่สามารถรู้หรือสังเกตได้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งเกิด อุบัติเหตุ ที่ทำให้ กระดูกหัก หรือ แตกร้าว และ แพทย์ ตรวจพบว่ามี ภาวะ“ภาวะกระดูกพรุน” ร่วมอยู่ด้วย เราจึงจะทราบ

หากเราไม่ต้องการให้ กระดูก แตกหรือหักง่ายจาก ภาวะกระดูกพรุน ในปัจจุบันเราสามารถ ตรวจ เพื่อวางแนวทางการ ป้องกัน การเกิด ภาวะกระดูกพรุน ได้แล้ว ด้วย “การตรวจวัดความหนาแน่นมวลกระดูก” 

ภาวะกระดูกพรุน คืออะไร?
ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือ ภาวะ ที่ ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกลดน้อยลง ทำให้ กระดูก เกิดช่องว่างภายในและขาด ความแข็งแรง ในที่สุด กระดูก จึงแตกหรือหักง่ายเมื่อเกิด อุบัติเหตุ เพียงเล็กน้อย ภาวะ นี้เปรียบเสมือนเป็น โรคเงียบ เนื่องจากผู้ป่วยจะไม่เห็น การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย จนกว่าจะมีการ แตกหัก และรู้สึกได้ โดยบริเวณที่พบ ภาวะกระดูกพรุน บ่อยคือ กระดูกสะโพก, กระดูกสันหลัง, และ กระดูกข้อมือ

ดังนั้น เพื่อ ป้องกัน ไม่ให้ กระดูกเปราะบาง และ แตกหักง่าย เราจึงควร ป้องกัน หรือรีบ รักษาภาวะกระดูกพรุน ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเริ่มจากการ ตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก ที่เรียกว่า Bone Mineral Density หรือ BMD

ทำความรู้จักกับ "การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก"
การตรวจวัดความหนาแน่นมวลกระดูก (Bone Mineral Density, BMD) เป็น การตรวจ เพื่อหาค่า ความหนาแน่นของกระดูก ตามส่วนต่างๆ เพื่อ ประเมินความเสี่ยง ในการเกิด โรคกระดูกพรุน โดยตำแหน่งที่ ตรวจ มักจะเป็นบริเวณ กระดูกสันหลัง, กระดูกสะโพก, กระดูกข้อมือ เนื่องจากบริเวณเหล่านี้เป็นบริเวณที่มี การแตกหักของกระดูก จาก ภาวะกระดูกพรุน ได้บ่อย หรือหากจำเป็นก็สามารถ ตรวจมวลกระดูก ได้ทั่วตัว

การตรวจมวลกระดูก เป็น การตรวจ ที่ไม่ต้องเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ต้องงดน้ำและอาหารแต่อย่างใด สามารถเข้ารับ การตรวจ ได้ทันที ใช้เวลา ตรวจ ประมาณ 5-10 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนและบริเวณที่ต้องการ ตรวจ

การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกดีอย่างไร?

  • สามารถ ตรวจกระดูก ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เกือบทั้งหมด 
  • ผลตรวจ คมชัด ถูกต้อง และ แม่นยำ 
  • ไม่เจ็บปวดขณะ ตรวจ 
  • สะดวก และใช้เวลา ตรวจ น้อย 
  • มีปริมาณรังสีที่ต่ำ

การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก
เหมาะกับใคร?
  • ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 
  • ผู้หญิงที่หมดประจำเดือน ก่อนอายุ 45 ปี หรือ 
  • ผู้หญิงที่ถึงวัยหมดประจำเดือน ที่มี ค่าดัชนีมวลกาย น้อยกว่า 19 กก./ม.2 
  • ผู้ที่เป็น โรค ที่เกี่ยวกับ ภาวะที่ทำให้มวลกระดูกลดลง เช่น โรคเบาหวาน, โรคตับเรื้อรัง, โรคไตเรื้อรัง, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, ภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากเกินไป เป็นต้น 
  • ผู้ที่รับประทาน ยาบางชนิด ที่ส่งผลต่อ มวลกระดูก เช่น ยาสเตียรอยด์, ยารักษาโรคไทรอยด์, ยารักษามะเร็ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 
  • ผู้ที่เคยมี ประวัติกระดูกเปราะและหักง่าย หรือเคย กระดูกหัก มาก่อน 
  • ผู้ที่ สูบบุหรี่ และ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
ทุกคนมีโอกาสเป็น ภาวะกระดูกพรุน ดังนั้น การได้รับการตรวจมวลกระดูก เพื่อ วินิจฉัย อย่างละเอียด และได้รับการ ป้องกัน ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นการลด ความเสี่ยง ในการเกิด โรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้เกิดเหตุจนต้อง เจ็บป่วย หรือ กระดูกแตกหัก เสียก่อนจึงเข้ารับ การรักษา เพราะ การป้องกัน นั้นไม่เจ็บตัวและ ค่าใช้จ่าย ก็ไม่สูงเท่ากับ การรักษา

บทความโดย
นายแพทย์กษิดิศ ศรีจงใจ
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์กระดูกและข้อ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2130-2131 
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Line ID : @paolo_pls
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn
Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn