อาการสำคัญของไส้ติ่งอักเสบมีลักษณะดังนี้
ระยะแรก – ระยะไส้ติ่งเริ่มอุดตัน: จะมีอาการปวดท้องกะทันหัน และเป็นอาการที่เกิดก่อนอาการอื่นๆ โดยมักมีอาการเบื่ออาหาร จุกแน่นร่วมด้วยตามมา มักปวดตำแหน่งรอบสะดือ ปวดแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน
ระยะต่อมา – ระยะไส้ติ่งบวมโป่งขึ้น: เมื่อเชื้อโรคแพร่กระจายและลุกลามถึงชั้นนอกของไส้ติ่ง ผู้ป่วยจะปวดท้องมากขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่เกิน 1-2 วัน และย้ายตำแหน่งมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา เมื่อการเคลื่อนไหว-ไอ-จามจะทำให้ปวดมากขึ้น และอาจเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูกในระยะนี้ได้
ระยะรุนแรง –ไส้ติ่งอักเสบแตกกระจายในช่องท้อง: เมื่อปล่อยไว้จนไส้ติ่งอักเสบแตก (พบได้บ่อยประมาณ 20%) หากไม่ได้รับการผ่าตัดรักษาจะเกิดผลข้างเคียงและมีภาวะแทรกซ้อนได้ 2 แบบ คือ
DID YOU KNOW
คำถามยอดฮิต : ไส้ติ่งอักเสบ
Q : ถ้าคิดว่าอาจกำลังเป็นไส้ติ่งอักเสบ ควรทำอย่างไร?
A: ไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคเร่งด่วน ต้องไปพบแพทย์ทันทีที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล และไม่ควรกินยาระบายหรือสวนอุจจาระ เพราะอาจทำให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นแตกเร็วขึ้น
Q : ไส้ติ่งอักเสบจำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้น จริงหรือไม่?
A: การรักษาไส้ติ่งอักเสบนั้น ทำได้อย่างเดียวคือการผ่าตัด โดยอาจจะเป็นการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง หรือการผ่าตัดแบบส่องกล้องก็ได้ ขึ้นกับความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด ผลการรักษาไม่แตกต่างกัน โดยการผ่าตัดแบบส่องกล้องจะมีแผลเล็กๆ 0.5-1 ซม. 2-3 ตำแหน่ง จึงเจ็บแผลน้อยกว่า และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
หากคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองหรือคนที่คุณรัก? วางแผนล่วงหน้าด้วยแผนประกันสุขภาพ คุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล (กรณีป่วยแอดมิทเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล) ค่าห้อง ค่าบริการทางการแพทย์และค่ายา การมีประกันสุขภาพสามารถช่วยให้การจัดการกับผลข้างเคียงราบรื่นและมีประสิทธิภาพ แล้วคุณจะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและสบายใจทุกวัน
หากสนใจศึกษาข้อมูลการวางแผนทำประกันสุขภาพ แผน Exclusive Care @ BDMS สามารถโทรปรึกษาฟรีได้ทันที 02-822-1155 หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Allianz Ayudhya