เมื่ออากาศเปลี่ยนพาโรคตาแดงมาด้วย
โรงพยาบาลเปาโลรังสิต
24-ส.ค.-2565
โรคตาแดง
          ช่วงปลายฝน ต้นหนาว เราคงจะเลี่ยงไม่ได้กับโรคที่มากับฝนและอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแบบนี้ โดยเฉพาะโรคยอดฮิตอย่างโรคตาแดงเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติที่หลอดเลือดฝอยในดวงตา เกิดขึ้นง่ายๆ หากถูกปัจจัยต่างๆ รอบตัวเรากระตุ้น ซึ่งมีสาเหตุหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความผิดปกตินี้ขึ้นได้


สาเหตุโรคตาแดง

          การติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถเกิดได้จากวัตถุต่างๆ ที่สัมผัสดวงตาโดยตรง เช่น คอนแทคเลนส์ หรือหากเป็น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจก็ทำให้ เกิดโรคตาแดงขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคตาแดง ตัวอย่างเช่น
  • เชื้อเยื่อบุตาอักเสบ
  • เชื้อเริม
  • เชื้ออีสุกอีใสและงูสวัด
  • เชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบ
  • เชื้อที่ทำให้เกิดหูดข้าวสุก
  • เชื้อไวรัสวัคซีน (พบได้น้อยมาก)
  • เชื้อเอดส์ (HIV)

          โรคภูมิแพ้ ตาแดงเป็นอาการหนึ่งของโรคภูมิแพ้ ซึ่งเกิดจากการถูกกระตุ้นด้วยสารภูมิแพ้ต่างๆ ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการผลิตแอนตี้บอดี้ออกมาซึ่งทำให้เกิดเซลล์ที่ส่งผลต่อการปล่อยสารฮีสตามีน และเมื่อร่างกายมีฮีสตามินมากเกินไป ก็จะทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้

          ตาแห้ง คืออาการของดวงตาที่มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาน้อยกว่าปกติจนแห้ง ทำให้เกิดความระคายเคืองและคันที่ดวงตาได้ หากเราไปขยี้ตาหรือเกาก็ทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสเข้าสู่ดวงตาได้เช่นกัน

          คอนแทคเลนส์ การใช้คอนแทคเลนส์โดยไม่ดูแลความสะอาดให้ดีอย่างสม่ำเสมอ คอนแทคเลนส์ก็จะเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้อย่างดีอีกด้วย

          แสงจากมือถือ การทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือ มือถือสมาร์ทโฟน เป็นเวลานานๆ นั้น นอกจากทำให้เราสายตาเสียแล้ว ก็ทำให้เกิดโรคตาแดงได้ด้วย เนื่องจากแสงอัลตร้าไวโอเลตจากหน้าจอนั้นทำให้ดวงตาเกิดความระคายเคือง รู้สึกคัน ไปจนถึงอาการตาแห้งได้ด้วย

          อาการเจ็บตา แผลในดวงตาที่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือ การผ่าตัด ก็ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดของดวงตา ทำให้เกิดอาการตาแดงได้

          โรคต้อหิน อาการตาแดงที่เกิดจากโรคต้อหินนั้น เกิดจากการไหลเวียนของเลือดและน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาที่ผิดปกติหากปล่อยเอาไว้โดยไม่รับการรักษาก็อาจทำให้ดวงตาบอดได้







อาการของโรคตาแดง
  • ระคายเคือง คันที่ดวงตา
  • แสบตา ไปจนถึงทำให้น้ำตาไหล
  • เปลือกตาบวมและผิวหนังลอก
  • ขนตาร่วง
  • รู้สึกปวดแสบปวดร้อน
  • ตาพร่าจนมองเห็นไม่ชัด
  • มีขี้ตาเหลวหรือเป็นก้อนแข็งบริเวณรอบๆ ดวงตา
  • มีไข้ ปวดศรีษะ

อาการตาแดงนั้นมีหลายลักษณะ หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว ดังนี้
  • ดวงตามีอาการบวมมากจนไม่สามารถลืมตาขึ้นได้
  • มีอาการเคืองตาเหมือนมีอะไรอยู่ในดวงตา ไวต่อแสง
  • มีไข้สูง คลื่นไส้












วิธีรักษาโรคตาแดง
  • รักษาความสะอาดเป็นวิธีป้องกันและรักษาโรคตาแดงที่สำคัญเพื่อไม่ให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสเข้าสู่ดวงตาได้
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือ ใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อไม่เป็นการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่วัตถุต่างๆ หรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
  • ระมัดระวังการใช้ยาหยอดตา เพราะโรคตาแดงอาจไม่ได้เกิดจากการระคายเคืองที่เพียงแค่การทำความสะอาดก็จะหายได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการผิดปกติต่อดวงตาควรปรึกษาแพทย์


ขอบคุณบทความดีๆ จาก
พญ.ทิพย์นภา เศรษฐบุตร
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจักษุวิทยา
ประจำโรงพยาบาลเปาโลรังสิต


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่ Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต