สั่นสู้กับโรคพาร์กินสัน
โรงพยาบาลเปาโลรังสิต
20-มิ.ย.-2567
สั่นสู้กับโรคพาร์กินสัน

          โรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease) เป็นโรคทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ประสาทในส่วนหนึ่งของสมองเริ่มตายหรือเสียหาย โดยเฉพาะในส่วนที่เรียกว่า substantia nigra ซึ่งมีหน้าที่ผลิตโดปามีน สารสื่อประสาทที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคพาร์กินสันให้หายขาด แต่ก็มีการรักษาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้เท่านั้น

สังเกตและเฝ้าระวังผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสันมักมีอาการดังต่อไปนี้
  1. อาการสั่น ที่มือหรือแขน
  2. ความเชื่องช้าในการเคลื่อนไหว (bradykinesia)
  3. ความแข็งกระด้างในกล้ามเนื้อ
  4. ปัญหาในการเดินและการรักษาสมดุล

นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ได้แก่ ปัญหาการนอนหลับ, การเปลี่ยนแปลงในการพูดและการเขียน, และปัญหาทางจิตใจเช่น ซึมเศร้าและความวิตกกังวล ซึ่ง
โรคพาร์กินสันนั้นมักพบในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป แต่ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย แม้จะพบได้ยากก็ตาม  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงและพันธุกรรมอีกด้วย โดยเราสามารถตรวจพบโรคพาร์กินสันได้ด้วยการซักประวัติการรักษาโรคและอาการที่มักขึ้น , การตรวจร่างกาย และการวินิจฉัยด้วยเครื่องมือการแพทย์อื่นๆ เพิ่มเติม



การรักษา
โรคพาร์กินสันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ ต่อไปนี้คือวิธีการรักษาที่พบบ่อยสำหรับโรคพาร์กินสัน
  1.  การใช้ยารักษาด้วยยาเป็นวิธีหลักในการบรรเทาอาการของโรคพาร์กินสัน ยาที่ใช้บ่อย ได้แก่:
    - Levodopa (L-Dopa) เป็นยาที่ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสัน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่จะเปลี่ยนเป็นโดพามีนในสมอง
    - ยาต้านโดพามีนที่ช่วยให้โดพามีนในสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ยา MAO-B inhibitors ช่วยชะลอการย่อยสลายของโดพามีนในสมอง
  2.  การรักษาด้วยการผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ยาไม่สามารถควบคุมอาการได้ ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยจะใช้การกระตุ้นสมองไฟฟ้า (Deep Brain Stimulation, DBS) เป็นการผ่าตัดที่ใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นบางส่วนของสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยลดอาการสั่น, ความแข็งตัว, และการเคลื่อนไหวช้า
  3.  การบำบัดด้วยกายภาพ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับกิจวัตรประจำวันได้ดียิ่งขึ้น ช่วยในการปรับปรุงท่าทางและการทรงตัว
  4.  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการรับประทานอาหาร การมีวิถีชีวิตที่ดี เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการกินอาหารที่สมดุล สามารถช่วยในการจัดการกับอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิต
         
         การรักษาโรคพาร์กินสันต้องการการดูแลที่ครอบคลุมและการติดตามอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพของพวกเขา



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
โทร 0-2577-8111 ต่อ 2 หรือ 1772
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่

Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต

เพิ่มเพื่อน