ปี 2025 เด็กไทยเผชิญ 2 โรคใหญ่ RSV และไข้เลือดออก
รู้ทัน ป้องกันได้ก่อนป่วย พ่อแม่ต้องเตรียมพร้อม
ช่วงฤดูฝนและฤดูร้อนเป็นช่วงที่โรคติดเชื้อในเด็กพุ่งสูง โดยเฉพาะ RSV และ ไข้เลือดออก การป้องกันเชิงรุกคือหัวใจสำคัญ
เด็กเล็ก โดยเฉพาะวัยอนุบาล มีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่าย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเต็มที่ อีกทั้งอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับผู้อื่น เช่น โรงเรียนอนุบาล ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้รวดเร็ว โรคติดเชื้อที่พบบ่อยและมีผลกระทบมากในช่วงวัยนี้ ได้แก่ RSV และ ไข้เลือดออก ซึ่งสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจึงควรเตรียมตัวป้องกันให้ลูกน้อยอย่างเต็มที่ เผยเคล็ดลับการป้องกันที่ได้ผลจริง พร้อมข้อมูลล่าสุดจากกุมารแพทย์โรคติดเชื้อ

RSV (Respiratory Syncytial Virus)
ไวรัสทางเดินหายใจที่พบมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 2 ปี อาจรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ
5 วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก
1. เสริมภูมิคุ้มกัน - ให้นมแม่
- อาหารที่มีวิตามินซี เช่น ฝรั่ง ส้ม
- นอนหลับให้พอ ออกกำลังกายเบาๆ
2. ดูแลสิ่งแวดล้อม - ทำความสะอาดของเล่น-พื้นผิวบ่อยๆ
3. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล - ล้างมือบ่อยๆ
- ใช้เจลแอลกอฮอล์ (เด็กโต)
- ใส่หน้ากากอนามัยในที่แออัด
4. สังเกตอาการเบื้องต้น - ไข้ ไอ หายใจเร็ว มีเสียงหวีด
- ให้ พาราเซตามอล ลดไข้
- ห้ามใช้ aspirin (เสี่ยง Reye’s syndrome)
5. วัคซีนทางเลือก: nirsevimab - ใช้ในเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 2 ปี
- ช่วยป้องกันได้ทั้งฤดูกาลระบาด
ไข้เลือดออก
โรคไวรัสเดงกีจากยุงลาย ระบาดหนักในฤดูฝน เสี่ยงช็อกและเสียชีวิตหากรักษาช้า
5 วิธีป้องกันไข้เลือดออกในเด็ก
1. กำจัดแหล่งยุงลาย- เทน้ำขัง เปลี่ยนน้ำ แจกัน
- ปิดฝาภาชนะน้ำ
- ใช้มุ้งลวด พัดลม สเปรย์กันยุงที่ปลอดภัย
2. ระวังไม่ให้ถูกยุงกัด 3. สังเกตอาการเบื้องต้น - ไข้สูงทันที ปวดเมื่อย ผื่นแดง
- ซึม ไม่กินน้ำ อาเจียน ต้องพบแพทย์
- ห้ามใช้ aspirin/ibuprofen ให้ใช้ พาราเซตามอล เท่านั้น
4. รับวัคซีนไข้เลือดออก (Qdenga) - ใช้ในเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป
- ฉีดได้แม้เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน
5. ดูแลสุขภาพพื้นฐาน รับประทานอาหารมีประโยชน์ - พักผ่อนเพียงพอ
- เสริมภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสติดเชื้อรุนแรง
แนวทางป้องกันโรคติดเชื้อในเด็ก ปี 2025
1. เสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยนมแม่ อาหารดี นอนหลับเพียงพอ และออกกำลังกาย
2. จัดสภาพแวดล้อมปลอดโรค กำจัดแหล่งเพาะยุง
3. สุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือ ใส่หน้ากาก ไม่ใช้ของร่วมกัน
4. วางแผนกิจกรรมกลางแจ้งให้ปลอดภัย เลี่ยงช่วงเวลาที่มียุง และใช้ยากันยุงเหมาะสม
5. เฝ้าระวังอาการ และพบแพทย์ทันที ยิ่งตรวจเร็ว ยิ่งลดความรุนแรงของโรคได้
บทความโดย
พญ.รติ ดิวิทยา
กุมารแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์ตรวจสุขภาพเด็ก โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
โทร. 02 1500 900 ต่อ 5121
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset