ทำไมยุงกัดถึง “ปวดข้อ” อาจเสี่ยง “โรคชิคุนกุนยา”
หากมีอาการปวดข้อ และเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ หลังจากที่โดนยุงกัด คุณอาจเสี่ยงเป็นโรคชิคุนกุนยา ได้! หากมีอาการดังกล่าว คุณจำเป็นต้องรีบ พบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและยืนยันโรค เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
ชิคุนกุนยา โรคที่มียุงเป็นพาหะ
ชิคุนกุนยา หรือที่รู้จักกันในชื่อโรคไข้ปวดข้อ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya Virus) ซึ่งอยู่ในตระกูล Togaviridae โดยมียุงลายสวน (Aedes albopictus) และยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรคหลัก ยุงเหล่านี้สามารถพบได้ทั้งในเมืองและชนบท และมักชุกชุมเป็นพิเศษในบริเวณภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน หรือบริเวณที่มีน้ำขัง
เนื่องจากยุงลาย มักออกหากินในช่วงกลางวัน ทำให้เด็กๆ ที่ชอบออกมาเล่นนอกบ้าน หรืออยู่ในโรงเรียน เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้เป็นพิเศษ
อาการของโรคชิคุนกุนยา ที่ต้องสังเกต
หลังจากโดนยุงที่ติดเชื้อกัด จะมีระยะฟักตัวก่อนเริ่มมีอาการประมาณ 3–7 วัน โดยอาการที่พบบ่อยได้แก่
โดยส่วนใหญ่อาการอื่นๆ มักจะหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์ ยกเว้นอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจรุนแรงและมีอาการต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน หรือในบางรายอาจนานเป็นปี ทำให้กระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก
แม้โดยปกติแล้ว โรคชิคุนกุนยา จะไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ รวมถึงผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนก็จะเพิ่มมากขึ้น
การตรวจวินิจฉัยโรคชิคุนกุนยา
หากสงสัยว่าเป็น ชิคุนกุนยา การวินิจฉัยจะทำโดย
การรักษาโรคชิคุนกุนยา และการดูแลตนเอง
ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน หรือยังไม่มียารักษาโรคชิคุนกุนยาโดยเฉพาะ ดังนั้นการรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการและประคับประคอง โดยแพทย์อาจให้น้ำเกลือ ยาลดไข้ ยาบรรเทา อาการปวดข้อ และแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวดังนี้
การป้องกันโรคชิคุนกุนยา สิ่งสำคัญที่สุดคืออะไร?
เนื่องจากไม่มีวัคซีนป้องกัน และไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจง การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงโรคไข้ปวดข้อนี้
แม้ว่าโรคชิคุนกุนยาจะไม่อันตรายถึงชีวิต และมีความร้ายแรงน้อยกว่าโรคไข้เลือดออกก็ตาม แต่ทุกโรคย่อมส่งผลเสียให้กับร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น เด็กและผู้สูงอายุ อาจเกิดผลแทรกซ้อนที่ยากแก่การรักษา ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากมีอาการ ไข้สูง เบื่ออาหาร ขาดน้ำ หรือปวดข้อรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธีทันที
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
แผนก อายุรกรรม โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
โทร. 02 1500 900 ต่อ 5113
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset