ภาวะเสี่ยงที่คุณแม่ท้องอ่อนต้องระวัง
การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายของลูกน้อยจะค่อย ๆ มีพัฒนาการ ซึ่งคุณแม่ในช่วงนี้จึงเสี่ยงเกิดภาวะอันตรายต่อครรภ์ได้ทุกเวลา โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 40 ปี อาจเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
3 ภาวะเสี่ยงที่พบบ่อยในคุณแม่ท้องอ่อน
1. การแท้งบุตร (Miscarriage) เป็นภาวะยุติการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ซึ่งพบบ่อยในช่วงไตรมาสแรก และเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ แต่สันนิษฐานว่าเกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้
➮ ความผิดปกติทางโครโมโซมของทารก
➮ ใช้สารเสพติด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มกาเฟอีน การใช้ยาบางชนิด
➮ การติดเชื้อไวรัส เริม หัดเยอรมัน
➮ โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ
➮ มดลูกผิดปกติ
➮ น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป
➮ ความเครียด ความวิตกกังวลอย่างรุนแรง
➮ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
➮ เผชิญกับมลพิษและได้รับสารพิษอันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว สารปรอท
➮ ทำงานหนัก ออกแรงมาก เดินมากเกินไป พักผ่อนน้อย
➮ เคยมีประวัติแท้งซ้ำ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสแท้งในท้องปัจจุบันได้มากขึ้น
อาการที่เสี่ยงการแท้งบุตร
ปวดท้องน้อย มีน้ำใส ๆ เลือดหรือมูกเลือดออกทางช่องคลอด รู้สึกว่ามดลูกแข็งตัวหรือบีบตัว หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์ให้เร็วที่สุด
2.ท้องนอกมดลูก (Ectopic Pregnancy) เกิดจากตัวอ่อนเกิดไปฝังตัวอยู่ในท่อนำไข่ หรือปีกมดลูก รังไข่ ปากมดลูก หรือพื้นที่ว่างในช่องท้องแทนที่จะเป็นโพรงมดลูก
ภาวะท้องนอกมดลูกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
➮ มีประวัติเคยท้องนอกมดลูกมาก่อน
➮ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไป
➮ มีประวัติการอักเสบและติดเชื้ออุ้งเชิงกรานบ่อย ๆ หรือเคยผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน
➮ เคยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ทำให้เกิดแผลเป็นและพังผืดในอุ้งเชิงกราน ท่อนำไข่ผิดปกติ ตีบตันหรืออักเสบ มดลูกอักเสบ
➮ ใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิดหรือเคยใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์
➮ มีประวัติสูบบุหรี่ เพราะมีสารพิษทำให้การเคลื่อนไหวของปีกมดลูกและการโบกพัดของขนเล็ก ๆ ในท่อนำไข่ด้อยลง ตัวอ่อนจึงไม่สามารถไปฝังตัวยังโพรงมดลูกได้
➮ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส
อาการที่เสี่ยงท้องนอกมดลูก
มีเลือดออกจากช่องคลอด ปวดท้อง เหนื่อยเพลีย ซีด เป็นลม วิงเวียนมีอาการช็อค (จากการที่มีเลือดออกในช่องท้อง)
3. ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar Pregnancy , Hydatidiform Mole) เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมขณะปฏิสนธิของไข่และสเปิร์ม ทำให้เกิดความผิดปกติของรก กลายเป็นถุงน้ำเล็ก ๆ จำนวนมากแทน อาการมักจะเกิดขึ้นในอายุครรภ์ภายใน 12 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคุณแม่วัยรุ่นหรือตั้งครรภ์ตอนอายุมาก
สาเหตุของครรภ์ไข่ปลาอุก
ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด สันนิษฐานว่ามีแนวโน้มเกิดจากปัจจัยดังนี้
➮ กรรมพันธุ์ของคุณแม่ที่มีญาติเคยตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกมาก่อน รวมถึงตัวคุณแม่เองที่เคยมีประวัตินี้มาก่อน
➮ คุณแม่ที่มีประวัติการแท้งเองมากกว่า 2 ครั้ง
➮ คุณแม่ขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น กรดโฟลิก วิตามิน B12
➮ ร่างกายคุณแม่มีการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ
➮ คุณแม่อายุมากกว่า 35 ปี
➮ คุณแม่ที่มีภาวะมีบุตรยาก
อาการของครรภ์ไข่ปลาอุก
ในช่วงแรกร่างกายของคุณแม่จะมีอาการคล้ายกับการตั้งครรภ์ปกติ เช่น ประจำเดือนขาด แพ้ท้อง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ แต่ค่อนข้างรุนแรง ความดันโลหิตสูงขึ้น บางรายยังอาจมีครรภ์โตกว่าปกติและมีอาการบวมน้ำ เมื่ออายุครรภ์มากขึ้นจะเริ่มมีเลือดออกทางช่องคลอด บางครั้งยังอาจมีเม็ดกลม ๆ ใส ๆ ปะปนออกมาด้วย หากมีภาวะเช่นนี้ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อดูดถุงน้ำออกจนหมด ป้องกันการเกิดภาวะตกเลือด การอักเสบและโอกาสที่จะพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งเยื่อรก
การป้องกันภาวะเสี่ยงระหว่างการตั้งครรภ์
➮ ตรวจสุขภาพก่อนการมีบุตร เพื่อตรวจวัดชีพจร ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ปริมาณเม็ดเลือดแดง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดเชื้อ โรคทางพันธุกรรม และภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน
➮ บริโภคกรดโฟลิกอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งได้ทั้งจากเม็ดวิตามินและอาหารตามธรรมชาติ
➮ ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
➮ กินอาหารที่มีประโยชน์
➮ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
➮ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ
➮ พักผ่อนให้เพียงพอ
➮ รีบฝากครรภ์ทันที เพื่อลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
➮ ระมัดระวังการเคลื่อนไหวทุกประเภทที่เสี่ยงต่อการแท้ง
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
โทร. 02 1500 900 ต่อ 5420
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset