สัญญาณเตือน...โรคหัวใจ
โรคหัวใจ เกิดจากความผิดปกติของระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด มีอยู่มากมายหลายชนิด ทั้งนี้โรคหัวใจที่พบบ่อย ได้แก่ หลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวายเฉียบพลัน เป็นต้น โดยส่วนมากโรคหัวใจดังกล่าวนี้มักเกิดขึ้นฉุกเฉิน จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษาให้ทันท่วงที ก่อนเกิดอันตรายต่อชีวิต
อาการของโรคหัวใจ ที่พบบ่อย
1.เจ็บแน่นหน้าอก2.หายใจลำบาก3.หอบเหนื่อย4.นอนราบไม่ได้5.ขาบวม6.ใจสั่น7.วูบ
การป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
1.ลดการกินอาหารที่มีไขมัน
2.ควบคุมน้ำหนัก
3.งดสูบบุหรี่
4.ออกกำลังกาย
5.พักผ่อนอย่างเพียงพอ
โรคหัวใจ บางชนิดนั้นอาจไม่สามารถป้องกันการเกิดได้ แต่สามารถที่ระมัดระวังใส่ใจดูแลสุขภาพในทุกวันให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ ด้วยการใส่ใจเรื่องอาหารการกินที่ถูกหลักโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ ควบคุมปริมาณการกินโซเดียม ไม่ควรเกิน 2 กรัม/วัน งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควบคุมการกินอาหารประเภทไขมันในสัดส่วนที่เหมาะสม นั่นคือ ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat acid) ในปริมาณที่น้อย ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ให้เพียงพอเลี่ยงไขมันสูงคอเลสเตอรอล (Cholesterol) การพักผ่อนที่เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การออกกำลังกาย สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ
สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นการออกกำลังกาย ที่แนะนำคือการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ (Cardio Exercise ) ที่มีความหนักระดับปานกลาง ไม่หอบเหนื่อยจนเกินไป ได้แก่ วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน แบดมินตัน ชกมวย โยคะ ไทเก็ก เป็นต้น โดยแนะนำ 150 นาที/สัปดาห์ หรือวันละ 30 นาที เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจให้แข็งแรง ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิต และการนำออกซิเจนสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
การตรวจคัดกรองโรคหัวใจ นอกจากการดูแลสุขภาพเป็นปกติในทุกวันแล้วนั้น การตรวจคัดกรองสุขภาพหัวใจก็มีส่วนสำคัญในการช่วยรู้ทันความผิดปกติได้ และหากมีอาการสัญญาณเตือนความผิดปกติของร่างกาย ยิ่งไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุในทันที โดยการตรวจคัดกรองระบบการทำงานของหัวใจ ได้แก่
1.EKG (Electrocardiography) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
2.ECHO (Echocardiogram) การตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
3.EST (Exercise Stress Test) การตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย
4.Holter Monitoring บันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชั่วโมง
บทความโดย
แพทย์หญิงฐิศิรักน์ ฉินนะโสต
อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเปาโล เกษตร