“การผ่าตัดผ่านกล้องเป็นการใช้เทคโนโลยีที่นับว่ามีประโยชน์และตอบโจทย์ได้ดีมาก เพราะผู้หญิงเวลาเจ็บป่วยหรือทำอะไรก็ตาม ความสวยงามเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เขาคิดถึง นอกจากนี้ในงานวิจัยต่างๆ ยังบอกไว้ว่า คนที่ผ่าตัดแบบผ่านกล้องจะมีพังผืดเกิดขึ้นน้อยกว่าแบบเปิดหน้าท้อง เพราะจะมีการอักเสบและเกิดปฏิกิริยาเคมีในร่างกายน้อยกว่า ซึ่งก็ตรงกับที่เรานิยมพูดกันว่า แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว”

นพ.อรัณ ไตรตานนท์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากนั้นได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งคุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจ และประสบการณ์ในการศึกษาว่า...

“ในตอนที่เป็นแพทย์ตรวจรักษาโรคทั่วไป หมอเห็นว่าการเป็นแพทย์ทางด้านสูติศาสตร์มีความน่าสนใจ เพราะว่าเป็นการดูแลคนไข้หนึ่งคนแต่เหมือนได้ดูแลถึงสองชีวิต คือ คุณแม่กับคุณลูกในครรภ์ อีกทั้งวิชาทางด้านสูติศาสตร์ก็มีทั้งด้านอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์ คือต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยารักษา ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความรู้ และลงมือทำหัตถการ (การผ่าตัด) ซึ่งหมอรู้สึกว่าเราจะได้ใช้วิชาทางการแพทย์ครบทั้งสองด้าน ก็เลยเลือกศึกษาต่อทางด้านนี้”

นอกจากสูติ - นรีแพทย์แล้ว คุณหมออรัณ ยังศึกษาต่อในอนุสาขามะเร็งวิทยานรีเวช ทำให้มีคนไข้โรคมะเร็งเยอะมาก ตอนนั้นหมอเห็นชัดเลยว่าผู้ป่วยโรคเป็นมะเร็งไม่จำเป็นต้องเสียชีวิตเสมอไป เพราะหากคนไข้มีความตระหนักรู้ในการสังเกตตนเอง มาตรวจโรคเร็ว รู้ผลเร็ว ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้เขารู้ตัว และรีบมาตรวจคัดกรองจึงเป็นประโยชน์มาก หมอก็เลยตัดสินใจที่จะศึกษาต่อทางด้านมะเร็งนรีเวชอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเป็นแพทย์ด้านนี้โดยตรง

ตรวจรักษาด้วยยา และผ่าตัดโรคทางนรีเวช

ที่โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน คุณหมออรัณ จะให้การดูแลรักษาคนไข้ทางด้านสูตินรีเวชทั่วไป ทั้งรักษาด้วยยาและการผ่าตัด รวมถึงการผ่าตัดผ่านกล้อง เช่น เนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ หรือคนไข้มะเร็งนรีเวช ด้วยทักษะ และประสบการณ์ในการรักษาด้านสูติ-นรีเวชมากว่า 10 ปี คุณหมออรัณ จึงมีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาคนไข้ด้วยความเข้าใจในแต่ละปัญหาของคุณผู้หญิง วินิจฉัยโรคด้วยความแม่นยำ มีการผ่าตัดที่ประณีตโดยคำนึงถึงความสวยงามของแผลผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบเปิด หรือผ่าตัดผ่านกล้องก็ตาม...

“วิธีการที่หมอใช้ในการดูแลคนไข้ อย่างแรกคือการอธิบายให้รู้อย่างรอบด้าน เพื่อให้คนไข้ได้มีความรู้เกี่ยวกับตัวโรคก่อน ซึ่งการให้ข้อมูลพร้อมให้กำลังใจคนไข้ควบคู่กันไป หมอมองว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะทำให้คนไข้มีกำลังใจ และพร้อมเผชิญกับโรคนั้นๆ อย่างมีสติ รวมถึงแนวทางการรักษาในปัจจุบันซึ่งมีนวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมาย คนไข้ก็จะผ่อนคลาย และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษา ทำให้คนไข้มีกำลังใจ และพร้อมเผชิญกับโรคนั้นๆ อย่างมีสติ”

สื่อสารอย่างเข้าใจคือหัวใจสำคัญ

โดยปกติกว่า 80% ของโรคทางนรีเวชในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ จึงนับเป็นภัยเงียบอย่างหนึ่ง ดังนั้นการตรวจ Check Up จึงมีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราพบโรคก่อนมีอาการ หรือลุกลามมากแล้ว

“จากประสบการณ์ที่ได้ดูแลคนไข้มามาก หมอคิดว่าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ หมอจึงให้เวลาในการพูดคุยข้อมูลทางการแพทย์ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ให้นึกภาพว่าหมอทำการแกะสลักไปที่ตัวคนไข้ ก็จะนึกภาพออกทันที หมอจะคิดกลับกันเสมอว่า ถ้าเราเป็นคนไข้เราจะรู้สึกอย่างไร หากต้องได้รับการรักษาทันที แต่เขายังติดภาระที่ยังไม่พร้อม หมอก็จะให้คนไข้มีเวลาตัดสินใจ เพื่อความสบายใจ และไม่ต้องวิตกวังวลตอนมารักษาตัว”

การวินิจฉัยที่ถูกต้องนำไปสู่การรักษาที่ถูกจุด

ก่อนการรักษาหรือผ่าตัด คุณหมออรัณ จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะการผ่าตัดจะต้องมั่นใจว่ามีความจำเป็น และความเหมาะสม คุณหมอได้ยกตัวอย่างกรณีแบบนี้ว่า...

“เคยมีคนไข้มีถุงน้ำรังไข่ขนาดประมาณ 40 ซม. กำลังเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งต้องผ่าตัดชนิดแนวกลาง (Midline Incision) มีแผลลากยาว ได้ปรึกษาเข้ามาด้วยความที่คนไข้เป็นนางแบบไม่อยากมีแผลผ่าตัดเพราะจะทำให้เสียโอกาสในอาชีพ จากประสบการณ์หมอคิดว่าถุงน้ำนั้นไม่ใช่มะเร็งเลยประเมินแนวทางการรักษาใหม่ ด้วยการเจาะเปิดแผลระบายน้ำในถุงออกให้หมด และใช้เครื่องมือดึงออก และเย็บปิดแผล ทำให้ได้ความกว้างของแผลเล็กน้อยไม่ส่งผลต่ออาชีพของคนไข้ เคสนี้ใช้เวลาผ่าตัดเพียงครึ่งชั่วโมง พักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 2 วัน คนไข้ก็กลับบ้านได้อย่างมีความสุข หายจากโรค และความทุกข์ทรมาน ซึ่งก็ทำให้หมอก็มีความสุขไปด้วย”

คุณหมออรัณ ให้การดูแลคนไข้เหมือนเป็นคนในครอบครัว พูดคุยด้วยความเข้าใจ ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างแพทย์มืออาชีพ และคุณหมอยังทำเพจ “อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน” ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เป็นกันเองเข้าถึงง่าย มีอารมณ์ขันของคุณหมอ เนื้อหาจึงมักสอดแทรกมุกตลกเอาไว้ ทำให้เพจของคุณหมอมียอดผู้ติดตามกว่า 160,000 คน