นพ. ธนุศักดิ์ ศรีใจ

Information Not found.

วุฒิบัตร

-
วัน เวลา
พุธ 17:00 - 20:00
พฤหัสบดี 17:00 - 20:00
อาทิตย์ 08:30 - 11:30
ประวัติการศึกษา
วุฒิการศึกษา สถาบันการศึกษา
Endoscopic and RoboticSeverance Hospital Yonsei University, Stanford University
วุฒิบัตรโสต ศอ นาสิกวิทยาโรงพยาบาลราชวิถี
แพทยศาสตรบัณฑิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ด้วยความที่หมอรักษาคนไข้มะเร็งมาค่อนข้างมาก แต่ละรายหมอก็จะพิจารณาถึงการรักษาระยะของมะเร็งแต่ละชนิด หากผ่าตัดต้องเป็นแบบไหน โดยให้ข้อมูลทางเลือกที่รอบด้านแก่คนไข้ เพื่อการตัดสินใจเลือกวิธีรักษาร่วมกัน หมอจะมุ่งมั่นตั้งใจในทุกๆ ครั้ง โดยคิดว่าต้องรักษาให้หายหาหนทางอย่างเต็มที่ และทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

นพ.ธนุศักดิ์ ศรีใจ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหลังจากได้ไปเป็นแพทย์ใช้ทุนเรียบร้อยแล้ว คุณหมอได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรโสต ศอ นาสิกวิทยา ที่โรงพยาบาลราชวิถี และยังเดินทางไปศึกษาต่อในด้าน Endoscopic and Robotic Surgery ที่ Severance Hospital Yonsei University และที่ Stanford University อีกด้วย โดยคุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจ และประสบการณ์ในการศึกษาว่า...

 

ชอบทำหัตถการผ่าตัดตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์ เพราะรู้สึกว่าทำแล้วสนุก ชอบที่ทำการรักษาแล้วคนไข้มีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนและหายจากโรคได้อย่างรวดเร็ว พอมีโอกาสที่จะศึกษาต่อ เลยมาสรุปที่สาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา หรือหู คอ จมูก เพราะเป็นการรักษาที่มีทั้งการทำศัลยกรรมที่ต้องใช้ความละเอียด และยังมีเรื่องของการรักษาด้วยยาอยู่ด้วย การเป็นแพทย์ด้านนี้ทำให้พบคนไข้มะเร็งค่อนข้างเยอะ เลยอยากพัฒนาความรู้และทักษะในการผ่าตัดมะเร็งที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน จึงได้ไปศึกษาดูงานด้าน Head and Neck Surgery, Endoscopic and Robotic Surgery ศัลยศาสตร์ศีรษะและคอ และการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ที่ Severance Hospital Yonsei University ประเทศเกาหลีใต้ และที่ Stanford University ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

เชี่ยวชาญการรักษามะเร็งหู คอ จมูก

นอกจาก คุณหมอธนุศักดิ์ จะดูแลรักษาโรคทั่วไปทางหู คอ จมูก แล้ว ยังมีคนไข้ส่วนหนึ่งที่มาด้วยอาการ พบก้อนที่ลิ้น คอ ปาก หรือมีอาการเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ต่อมน้ำลาย และไซนัส กรณีการมีก้อนต่างๆ เกิดขึ้นนั้น หากตรวจพบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งก็ต้องรีบรักษาโดยเร็ว ซึ่งคุณหมอเองมีความเชี่ยวชาญในการรักษามะเร็ง ทั้งในหู คอ จมูก หรือกล่าวรวมๆ ได้ว่า คุณหมอเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญการรักษามะเร็งในบริเวณศีรษะนั่นเอง

 

เคสมะเร็งส่วนใหญ่ หากผ่าตัดก็มักจะเป็นการผ่าตัดแบบเปิด เพราะด้วยความที่เป็นมะเร็งและมักเป็นก้อนใหญ่ หากเป็นการผ่าตัดทั่วไปที่ไม่ใช่มะเร็งจะเป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งทุกวันนี้หมอก็ทำการผ่าตัดอยู่ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคและความเหมาะสมในคนไข้แต่ละราย เวลาผ่าตัด นอกจากเป้าหมายที่หวังให้คนไข้หายจากโรคแล้ว หมอจะพยายามป้องกันปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เพราะทุกการรักษาจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ

 

ทุกการรักษา คุณหมอธนุศักดิ์ จะให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่คนไข้ เพราะข้อมูลคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คนไข้ตัดสินใจเลือกวิธีรักษา นำไปสู่การวางแผนการรักษาที่ตรงเป้าหมาย การที่คนไข้เข้าใจจะทำให้เกิดความสบายใจ มีความเชื่อมั่นในการรักษา โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่คนไข้มักมีความเครียดสูง หากยังมีความลังเลสงสัย ก็อาจส่งผลต่อการดูแลสุขภาพของคนไข้เอง ไปจนถึงส่งผลต่อการรักษาด้วย

เป็นทั้งแพทย์ และอาจารย์แพทย์ผู้ให้ความรู้

ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการเป็นแพทย์หู คอ จมูก คุณหมอธนุศักดิ์ ยังเป็นทั้งแพทย์ผู้รักษา และเป็นอาจารย์แพทย์ที่ให้ความรู้แก่นักศึกษาแพทย์ด้านหู คอ จมูก คุณหมอจึงไม่หยุดพัฒนา และอัปเดตวิชาการ รวมถึงนวัตกรรมในการรักษา และเชื่อเสมอว่า

เราสามารถหาความรู้ได้ทั้งจากการเข้าร่วมประชุมวิชาการ จากการอ่านวารสารทางการแพทย์ งานวิจัย และการ Observe short courses ต่างๆ ซึ่งความรู้เหล่านี้เราสามารถนำมาพัฒนา และปรับใช้ในการดูแลรักษาคนไข้ให้เกิดประโยชน์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้

บทบาทการเป็นอาจารย์แพทย์นั้น คุณหมอธนุศักดิ์ จะทำการสอนนักเรียนแพทย์ และแพทย์ประจำบ้านในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของวิธีการตรวจ การประเมินโรคของผู้ป่วย รวมถึงการผ่าตัดมะเร็งชนิดต่างๆ ทั้งนี้ คุณหมอยังสละเวลาไปเป็นวิทยากรบรรยายความรู้ที่เกี่ยวข้องให้กับสถาบันการศึกษา และองค์กรต่างๆ อยู่เสมอ

 

คัดกรอง ลดเสี่ยง หลีกเลี่ยงโรคเรื้อรัง

คุณหมอธนุศักดิ์ ให้ความเห็นว่าโรคทางหู คอ จมูก มีหลายอาการที่เราสามารถสังเกตความผิดปกติเบื้องต้นได้ เช่น หากพบก้อน หรือลักษณะปุ่มปมผิดปกติเกิดขึ้น มีก้อนนูนบริเวณคอออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้แต่พบว่ามีแผลเรื้อรังในช่องปาก ทั้งเป็นๆ หายๆ หรือเป็นระยะเวลานาน ถ้าแผลอยู่นานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็กหรือแผลใหญ่ก็ควรเข้ารับการตรวจ หรือมีอาการอื่นๆ ที่มีความผิดปกติ เช่น กลืนเจ็บ กลืนลำบาก เสียงแหบ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย เพราะการตรวจพบความผิดปกติได้เร็ว การรักษาก็จะเป็นไปอย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพดีกว่าการมาตรวจรักษาเมื่อโรคลุกลาม