ปวดหลัง สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา โรคหลัง ที่ควรรู้! 
อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนไทยทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องนั่งทำงานนานๆ หรือมีการใช้งานบริเวณหลังหนักๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิด อาการปวดหลังของแต่ละคน อาจแตกต่างกันไป บางคนอาจปวดเพียงเล็กน้อย แต่บางคนอาจปวดมากจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญคือไม่ควรทนต่อความเจ็บปวด เพราะอาการปวดหลัง สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างถูกวิธี 

 

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของอาการปวดหลัง 
อาการปวดหลัง มักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและภาวะทางสุขภาพ 

1. พฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การยืน การนั่ง การเดิน การนอนที่ผิดท่า รวมถึงการนั่งผิดท่าเป็นเวลานานโดยไม่มีการขยับร่างกาย 
2. การยกของหนัก หรือการก้มยกของด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ถูกวิธี 
3. ที่นอน มีลักษณะไม่ถูกต้องตามสรีระการนอน หรือที่นอนแข็งหรือนุ่มเกินไป 
4. ขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อหลังไม่แข็งแรง 
   
5. น้ำหนักเกินเกณฑ์ หรือมีภาวะอ้วน ยิ่งเพิ่มภาระให้กระดูกสันหลัง 
6. ภาวะกระดูกพรุน ทำให้กระดูกสันหลังอ่อนแอและเสี่ยงต่อการยุบตัว 
   
7. โรคประจำตัวหรืออุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณหลัง 
   
8. อายุ โดยเกี่ยวข้องกับการใช้งานหนัก และการเสื่อมสภาพของร่างกาย 
9. โครงสร้างกระดูกสันหลังผิดปกติ มาตั้งแต่กำเนิด 
   
10. การสูบบุหรี่ อาจเป็นสาเหตุให้ หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ 

 

หากต้องการทราบสาเหตุที่แท้จริงของ อาการปวดหลัง จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากแพทย์ เช่น การทำ X-ray, CT Scan หรือ MRI กระดูกสันหลัง เป็นต้น 

 

ปวดหลังแบบไหน เป็นสัญญาณเตือน โรคเกี่ยวกับหลังที่กำลังจะตามมา? 
อาการปวดหลังที่คุณกำลังเผชิญอยู่ อาจไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนจาก โรคเกี่ยวกับหลังที่รุนแรงกว่า เช่น 

1. ปวดหลังแบบกว้างๆ ก้มหรือแอ่นหลังไม่ได้
2. ปวดหลังเมื่อยกของหนักหรือเล่นกีฬา
3. ปวดหลังส่วนล่างร้าวลงขา สะโพก หรือก้น
4. ปวดหลังร้าวเหมือนไฟฟ้าช็อต
5. ปวดหลังร่วมกับอาการชาหรืออ่อนแรง
6. ปวดหลังแบบขัดๆ ปวดลึก ปวดเสียว
7. ปวดหลังแบบเมื่อยล้า หรือปวดแนวกระดูกกลางหลัง
8. ปวดหลังเยื้องออกมาด้านข้าง หรือปวดเหนือบั้นเอวทั้ง 2 ข้าง 

อาการปวดหลังเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่อาจตามมา เช่น กล้ามเนื้อหรือเอ็นอักเสบ, โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท, โรคกระดูกสันหลังเสื่อมหรือเคลื่อน, ภาวะกระดูกพรุน, ภาวะกระดูกสันหลังคด, โรคไต, และโรคนิ่ว เป็นต้น 

 ระดับความรุนแรงของ อาการปวดหลังของแต่ละคน อาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่อาการปวดเพียงชั่วคราว ไปจนถึงปวดร้าวฉับพลันที่รบกวนชีวิตประจำวันอย่างมาก หากมีอาการดังกล่าวนานผิดปกติและไม่รู้สึกดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี 

อาการปวดหลังหายได้! หากได้รับการรักษาที่ถูกวิธี 

การรักษาอาการปวดหลัง สามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบหลัก 

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด : เริ่มต้นด้วยการทานยาแก้ปวด หรือทำกายภาพบำบัด หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีความรุนแรงมากขึ้น อาจใช้การฉีดยาเข้าเส้นประสาทแทน

การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด : หากการรักษาด้วยยาหรือการฉีดยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือผู้ป่วยมีอาการรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีการผ่าตัด ซึ่งมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการและการวินิจฉัยของแพทย์

 

บทความโดย
นายแพทย์อนันต์ สัจจะมุนีวงศ์
แพทย์ประจำสาขากระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

• โรคกระดูกและข้อไม่ได้เกิดแค่ผู้สูงวัย
• ปวดกล้ามเนื้อและข้อ อาการที่คนทำงานอย่ามองข้าม
• ออฟฟิศซินโดรม โรคยอดฮิตของคนวัยทำงาน
• ทำความเข้าใจ...ข้อแตกต่างระหว่าง X-RAY กับ MRI
• หมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท