คุณแม่ตั้งครรภ์กับเครื่องดื่มคาเฟอีน ที่ต้องระวัง
โรงพยาบาลเปาโลรังสิต
11-ส.ค.-2566
คุณแม่ตั้งครรภ์กับเครื่องดื่มคาเฟอีน ที่ต้องระวัง 

          ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ครองใจคนทุกเพศทุกวัย บางคนดื่มกาแฟตอนเช้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่น หลุดพ้นจากความง่วง พอข้ามมาช่วงบ่ายที่ต้องทำงานนั่งโต๊ะจนร่างกายเอื่อยเฉื่อย พอได้ดื่มชาเย็นๆ อีกสักแก้ว ก็แก้ง่วงได้ดี เพราะร่างกายได้รับน้ำตาล แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นคุณแม่แล้ว การทานคาเฟอีนแบบที่ทำอยู่ทุกวันอาจไม่ดีต่อลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์นัก

หากบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมาก ๆ
จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างไร ?

          คาเฟอีนมีสารขับปัสสาวะ ทำให้เราปัสสาวะบ่อย ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ มากกว่าปกติ กรณีนี้ คุณแม่ควรดื่มน้ำทดแทนด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดน้ำ
ทารกในครรภ์ไม่สามารถขับสารคาเฟอีนที่รับมาได้เอง หากได้รับในปริมาณที่มาก อาจทำให้การเจริญเติบโตช้า หรือน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ บางรายมีโอกาสพิการแต่กำเนิดได้

          สำหรับคุณแม่ที่ทานเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำ คงเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความอดทน และห้ามใจเป็นอย่างมาก เพื่อลูกน้อย แต่สารคาเฟอีนในเครื่องดื่ม ไม่ได้อันตรายเสียทีเดียวหากเรารู้จักที่จะบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ



การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างไรให้พอดี ?
          การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุก็มาจากน้ำตาลในเครื่องดื่ม การดื่มน้ำตามมากๆ หลังดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวานได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มน้ำสะอาดให้แก่ร่างกาย ป้องกันภาวะขาดน้ำจากการที่ต้องปัสสาวะบ่อยกว่าที่ควร อันมีผลมาจากคาเฟอีนนั่นเอง

          ในกรณีหญิงตั้งครรภ์ อาจเปลี่ยนจากการดื่มชา กาแฟ มาเป็นน้ำผลไม้ ก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้เช่นกัน และยังช่วยลดอาการกระหายน้ำได้ด้วย จากเดิมที่เราอาจจะชงกาแฟดื่มยามบ่าย ก็เปลี่ยนมาเป็น น้ำส้มคั้น น้ำฝรั่ง หรือนมสดทดแทนได้ แถมยังดีต่อสุขภาพคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย

          สำหรับคนทั่วไปที่ยังติดการดื่มชา กาแฟ การดื่มไม่เกินวันละ 200-400 มิลลิกรัม หรือ 1-2 แก้วมัค คือปริมาณที่ไม่มากเกินไป

          ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นเมนูที่ไม่แนะนำสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะจะส่งผลเสียกับลูกน้อยมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ จึงควรบริโภคให้น้อยที่สุดจะดีกว่า เพราะมีงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า ในผู้หญิงที่ดื่มกาแฟหรือชาในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน มีโอกาสแท้งลูกหรือมีบุตรยากกว่าปกติ และในคุณแม่ตั้งครรภ์ก็มีโอกาสที่ครรภ์จะผิดปกติมากกว่าด้วย


ขอบคุณบทความดีๆ จาก
พญ.ธิติมา เหล่าศิริรัตน์
สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา




ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต

เพิ่มเพื่อน