เล่นมือถือระหว่างถ่ายหนักอาจเป็นสาเหตุของริดสีดวงทวาร

          โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ห้าสำหรับคนเราในปัจจุบัน ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร หรือกิจกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่างก็มีโทรศัพท์มือถือเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะโซเชียลมีเดียที่ทุกคนเชื่อมต่อกันผ่านโทรศัพท์มือถือนั้น มีทั้งข่าวสาร ข้อมูล ที่ให้ทั้งสาระบันเทิงต่าง ๆ ที่มีจำนวนมากมายผ่านไปเร็วทำให้ชีวิตของเราส่วนใหญ่ติดอยู่กับหน้าจอ ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาที่ทำธุระในห้องน้ำก็ตาม

          การอุจจาระเป็นหนึ่งกิจวัตรที่เราต้องทำทุกวันหรืออย่างน้อยก็ 1-2 ครั้งต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย แต่กิจกรรมในห้องน้ำนี้เราอาจเริ่มใช้เวลามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ด้วยการนั่งแช่ นั่งนาน ๆ อยู่แบบนั้น ทำธุระไปด้วย คนส่วนใหญ่มักนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้งานด้วยขณะที่ถ่ายหนักในห้องน้ำ เล่นมือถือไปด้วยจนใช้เวลาในห้องน้ำนานเกินควร ซึ่งหารู้ไม่ว่านำผลเสียต่อสุขภาพของเราโดยไม่รู้ตัว

เล่นมือถือระหว่างถ่ายหนัก ทำให้เสียสุขภาพอย่างไร ?
          เวลาที่เหมาะสมในการขับถ่ายนั้นคือไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อครั้ง การเล่นมือถือไปด้วย อาจทำให้อุจจาระที่ค้างอยู่ในลำไส้นั้นไม่ได้รับการออกแรงเบ่ง ทำให้ไหลกลับไปคั่งค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้เกิดการท้องผูกได้ นอกจากนั่งเล่นมือถือเป็นเวลานานระหว่างขับถ่าย ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารได้




ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร

1.  โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน ส่งผลให้เพิ่มแรงดันในช่องท้องและในอุ้งเชิงกรานสูงขึ้น เช่นเดียวกับในหญิงตั้งครรภ์
2.  อายุ ผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของเนื้อเยื่อต่าง ๆ รอบหลอดเลือด รวมทั้งของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด หลอดเลือดจึงโป่งพองได้ง่าย
3.  พันธุกรรม เป็นหนึ่งความเสี่ยงที่ไม่ควรละเลย เพราะผู้เป็นริดสีดวงทวารจำนวนไม่น้อย มักมีประวัติคนในครอยบครัวเป็นโรคริดสีดวงทวาร
4.  การตั้งครรภ์ เมื่อเกิดการตั้งครรถภ์ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นก็ตามมา อวัยวะใกล้เคียงกับลำไส้และทวารมักถูกกดทับด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น จึงเกิดหลอดเลือดบวมพองได้ง่าย
5.  ท้องผูก อย่างที่บอกเอาไว้ข้างต้นว่าการนั่งขับถ่ายเป็นเวลานานเกินความจำเป็น มีความเสี่ยงจะเกิดการบวมพองของเนื้อเยื่อหลอดเลือดดำที่ทวารได้ ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง หรือหลอดเลือดขอดได้
6.  ท้องเสีย ผูที่มีอาการท้องเสียเรื้อรัง ต้องถ่ายบ่อย ๆ หรือถี่กว่าปกตินั้นมีความเสี่ยงที่เส้นเลือดดำจะอักเสบหรือบวมพองมากกว่าในคนปกติ
7.  เพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิงที่มีเพศสัมพันธุ์ทางทวารหนักโดยไม่เตรียตัวให้พร้อมก่อนนั้น ช่องทางทวารที่ไม่ได้รองรับกิจกรรมทางเพศนั้นอาจเกิดอาการบาดเจ็บ อักเสบได้ เป็นสาเหตุในเกิดริดสีดวงทวารได้เช่นกัน
8.  โรคที่เกี่ยวกันลิ้นหัวใจหรือหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดดำในเนื้อเยื่อหลอดเลือดที่ทำหน้าช่วยในการไหลเวียนเลือด เกิดภาวะเลือดคั่งในหลอดเลือดจนเกิดหลอดเลือดโป่งพอง

อาการของโรคริดสีดวงทวาร

1. ขณะที่เบ่งหรือขับถ่าย มีก้อนเนื้อปลิ้นออกมาจากทางทวาร และจะหดกลับเข้าไปเมื่อหยุดเบ่ง หากปล่อยเอาไว้เรื้อรังก้อนเนื้อดังกล่าวจะหย่อนออกมานอกปากทวารหนัก เป็นอุปสรรคในขับถ่าย และการนั่ง
2.  มีเลือดออกขณะขับถ่ายหรืออุจจาระมีเลือดปน บางรายอุจจาระออกมาเป็นมูกเลือด อาการเหล่านี้เกิดได้ทั้งแบบเป็น ๆ หาย ๆ และเป็นเรื้อรัง นานกว่า 1 อาทิตย์
3.  เกิดอาการระคายเคือง คัน บริเวณรอบทราวหนัก

          โรคริดสีดวงทวารไม่ควรบ่อยให้เป็นหนักจนทนไม่ไหว ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาในระยยเริ่มแรกนั้นการรักษาไม่ยุ่งยากและหายได้ไวกว่าในระยะที่ลุกลามรุนแรง


การรักษาโรคริดสีดวงทวาร

1.  ในกรณีที่ไม่มีอาการรุนแรงและไม่อยากผ่าตัด ควรดูแลร่างกายในแข็งแรงอยู่เสมอด้วยการ ดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกานต้องการ ทานผัก ผลไม้ที่มีกากใย
2.  ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงมาก แต่อาการปวดจากการอักเสบ ให้ทานยาแก้ปวด นั่งแช่น้ำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง
3.  หากมีอาการ คลำเจอก้อนที่ทวารหนัก หรือเลือดออกขณะอุจจาระเรื้อรังเป็นเวลานานกว่า 1 อาทิตยื ควรมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป ว่าควรเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่
   

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
นพ.ปกป้อง วงษ์วิจารณ์
ศัลยแพทย์ทั่วไป
ประจำโรงพยาบาลเปาโล รังสิต





ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
Line ID : @paolorangsit