-
มะเร็งตับ อันตรายร้ายที่ผู้ชายต้องระวัง!
“มะเร็งตับ” เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย ซึ่งสาเหตุในการเกิดโรคมะเร็งตับนั้นจะไม่มีความจำเพาะเจาะจง และเซลล์มะเร็งสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้ป่วยมักไม่รู้ว่าเป็นโรคมะเร็งตับ เพราะส่วนใหญ่ในระยะแรกของโรคจะไม่ค่อยมีอาการแสดงที่เด่นชัด ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจกับโรคมะเร็งตับ เพื่อการรู้เท่าทันและสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ดีขึ้น
ก่อนจะเข้าใจมะเร็งตับ ควรรู้จักตับให้ดีก่อน
ตับ เป็นอวัยวะภายในช่องท้องที่ใหญ่ที่สุด อยู่ทางด้านขวาหลังซี่โครงส่วนล่าง โดยตับจะทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น
อีกทั้งตับยังสามารถซ่อมแซมตัวเองได้หากได้รับบาดเจ็บได้อีกด้วย
ทำความรู้จักกับ “มะเร็งตับ”
มะเร็งตับเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ภายในตับเกิดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตเกินการควบคุม โดยสามารถแบ่งมะเร็งตับได้เป็น 2 ชนิด คือ
มะเร็งตับชนิดปฐมภูมิ : เป็นมะเร็งที่เกิดจากตับโดยตรง หรือเริ่มจากตับและลามไปยังอวัยอื่นๆ
มะเร็งตับชนิดทุติยภูมิ : เป็นมะเร็งที่เกิดจากโรคมะเร็งชนิดๆ อื่นแพร่กระจายมายังตับ เช่น โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเต้านมเกิดลุกลามไปที่ตับ เป็นต้น
สัญญาณอาการร้ายของมะเร็งตับ
ในระยะแรกของโรคมะเร็งตับ มักไม่มีอาการให้เห็นหรือรู้สึกได้ แต่อาจปรากฏขึ้นเมื่อมะเร็งเติบโตและมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือมีการแพร่กระจายแล้ว โดยอาจสังเกตได้จากอาการอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจไม่ได้บ่งบอกถึงโรคมะเร็งตับเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากภาวะสุขภาพอื่นๆ ได้ด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้หรือมีความกังวลใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจะดีกว่า
ไม่ใช่แค่แอลกอฮอล์...ที่ก่อมะเร็งตับ!
พฤติกรรมหรือปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับมีอยู่มากมาย เช่น
ทั้งนี้ การมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ไม่ได้เป็นสาเหตุทั้งหมดของการเกิดมะเร็งตับ อาจมีเหตุผลอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งตับได้เช่นกัน
ลดความเสี่ยง...เลี่ยงมะเร็งตับ
นอกจากการลดความเสี่ยงด้วยการปรับพฤติกรรม ยังควรตรวจคัดกรองสุขภาพตับหรือตรวจหามะเร็งตับทุก 6-12 เดือน เพราะการพบมะเร็งตับในระยะแรกๆ เช่น เซลล์มะเร็งมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 ซม. ก็จะเป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดีกว่าการพบมะเร็งตับที่เซลล์มีขนาดใหญ่ หรือเป็นในระยะลุกลามแล้ว
และที่สำคัญคือ ควรดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง รับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพราะการทำเช่นนี้ไม่ใช่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับเท่านั้น แต่ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นในทุกๆ ด้านอีกด้วย
บทความโดย
นายแพทย์ อัครวุฒิ จันทราพิรัตน์
แพทย์ประจำอายุรกรรมทางเดินอาหาร
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ