โลหิตจาง รู้ไว้ ให้ไกลเสี่ยง!
“โลหิตจาง” อาจฟังดูเหมือนโรคธรรมดาที่ไม่ร้ายแรง เพราะใครหลายคนอาจเคยได้ยินแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะมีผลกระทบอะไร แต่รู้หรือไม่ว่า หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาการเล็กน้อยจากภาวะโลหิตจางสามารถสะสมจนส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้ในอนาคต

โลหิตจาง…โรคที่มองไม่เห็น แต่อันตรายอยู่ใกล้ตัว
โลหิตจาง (Anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับฮีโมโกลบินหรือเม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ไม่เพียงพอ ส่งผลให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายได้
สัญญาณเตือนจากภาวะโลหิตจาง
- อ่อนเพลียเรื้อรัง รู้สึกหมดพลังแม้จะพักผ่อนเต็มที่
- หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้นเร็ว
- ผิวซีด ริมฝีปากซีด สีผิวดูจางกว่าปกติ
- เหนื่อยง่าย หายใจหอบ แม้ทำกิจกรรมเบา ๆ
- มือเท้าเย็น รู้สึกหนาวง่ายผิดปกติ
หากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมกันหลายข้อ อย่านิ่งนอนใจ เพราะคุณอาจเข้าข่ายภาวะโลหิตจาง แนะนำให้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อช่วยวินิจฉัยได้อย่างเหมาะสม
.jpg)
สาเหตุของโลหิตจาง...มากกว่าแค่การขาดสารอาหาร
- การขาดธาตุเหล็ก วิตามินบี12 และโฟเลต : สารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้จากการกินอาหารไม่ครบหมู่หรือดูดซึมได้ไม่ดี ก็จะนำไปสู่โลหิตจางได้
- การเสียเลือดเรื้อรัง หรือเสียเลือดมากเกินไป :
- ในผู้หญิงอาจมีการมีประจำเดือนมามากผิดปกติ อาจมีสาเหตุจากมะเร็งในอุ้งเชิงกราน
- การบาดเจ็บหรือการผ่าตัดที่ทำให้เสียเลือดมาก
- การมีแผลในกระเพาะอาหารหรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อาจมีสาเหตุจากมะเร็งทางเดินอาหาร
- โรคประจำตัวและพันธุกรรม :
- โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
- โรคไตวายเรื้อรัง
- ภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย : โรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง ลำไส้อักเสบ หรือโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ สามารถรบกวนกระบวนการผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกายได้
โลหิตจางมีผลต่อสุขภาพอย่างไร?
หากปล่อยให้ภาวะโลหิตจางดำเนินต่อไปโดยไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด : หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยการขาดออกซิเจน อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้
- ระบบภูมิคุ้มกัน : โลหิตจางทำให้ร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยบ่อยขึ้น
- สมรรถภาพการทำงาน : ร่างกายเหนื่อยง่าย สมองตื้อ ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- พัฒนาการทางสมอง : ในเด็ก หากมีภาวะโลหิตจางอาจทำให้การเรียนรู้ช้าลง สมาธิสั้น
.jpg)
วิธีรักษาและฟื้นฟูภาวะโลหิตจาง
- ตรวจวินิจฉัยต้นตอของปัญหา : การเจาะเลือดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจวินิจฉัยโลหิตจาง เพราะช่วยให้รู้ถึงระดับฮีโมโกลบินและสารอาหารในร่างกาย
- ปรับเปลี่ยนการกินอาหาร โดยเน้นไปที่อาหารที่ช่วยบำรุงเลือด ได้แก่ :
- อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง : เนื้อสัตว์ ตับ ผักโขม
- อาหารเสริมวิตามินบี12 : นม ไข่
- โฟเลต : ผักใบเขียวเข้ม ถั่วเลนทิล
- ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร : หากร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดมาก การรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมที่แพทย์แนะนำจะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะพวกวิตามินและธาตุเหล็ก
- รักษาสาเหตุที่แท้จริง : การรักษาโรคประจำตัวหรือแก้ไขปัญหาที่ทำให้ร่างกายสูญเสียเลือด เช่น การรักษาโรคประจำตัวอย่างธาลัสซีเมีย หรือควบคุมอาการของโรคเรื้อรัง
ป้องกันโลหิตจาง เริ่มต้นที่ตัวเรา
การป้องกันโลหิตจางไม่ใช่เรื่องยาก หากเราปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
- ลดการดื่มชา กาแฟพร้อมมื้ออาหาร เพราะสารแทนนินลดการดูดซึมธาตุเหล็ก
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด

กลุ่มเสี่ยงที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ
- ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีประจำเดือนมาก ควรเสริมธาตุเหล็กเป็นพิเศษ
- หญิงตั้งครรภ์ ควรเสริมโฟเลตและธาตุเหล็ก เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางและส่งเสริมพัฒนาการของทารก
- เด็กเล็กและวัยรุ่น ในวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต การได้รับสารอาหารไม่เพียงพออาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองและร่างกาย
โลหิตจางเป็นภาวะสุขภาพที่ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจัง แม้จะเริ่มต้นด้วยอาการเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ใส่ใจ อาจนำไปสู่ผลกระทบใหญ่หลวงต่อสุขภาพของคุณ
ดังนั้น การเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเองวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง การกระทำเหล่านี้แม้เพียงทีละนิด แต่หากเราทำเป็นประจำก็สามารถช่วยให้ห่างไกลจากภาวะโลหิตจางได้
บทความโดย
นายแพทย์ณัฐวุฒิ สุมาลัย
แพทย์ประจำสาขาอายุรกรรม
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนก อายุรกรรมทั่วไป
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2390-2393
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดี ๆ ได้ที่
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn