-
"ไทรอยด์คืออะไร? เข้าใจต่อมเล็กๆ แต่สำคัญมากในร่างกาย"
โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
07-พ.ย.-2567

"ไทรอยด์คืออะไร? เข้าใจต่อมเล็กๆ แต่สำคัญมากในร่างกาย"

ต่อมไทรอยด์อาจมีขนาดเล็กในร่างกายแต่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของร่างกายหลายด้าน ตั้งแต่การเผาผลาญพลังงาน การรักษาสมดุลอุณหภูมิ ไปจนถึงการควบคุมระบบการทำงานของหัวใจและระบบประสาท หากไทรอยด์เกิดความผิดปกติจึงสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของเรา ในบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของต่อมไทรอยด์ และสัญญาณเตือนว่าไทรอยด์มีปัญหาเกิดขึ้น เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับ “ไทรอยด์” กันมากขึ้น

 

ไทรอยด์คืออะไร?

ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่บริเวณด้านหน้าลำคอ มีลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอกซิน (T4) และไตรไอโอโดไทโรนีน (T3) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกาย รวมถึงการเจริญเติบโตและการพัฒนาการทำงานของอวัยวะหลายส่วน เช่น หัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ฮอร์โมนไทรอยด์ยังช่วยรักษาสมดุลของอุณหภูมิร่างกาย ควบคุมการใช้พลังงานของร่างกาย และยังส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและระบบประสาทด้วย

 

หน้าที่ของไทรอยด์และฮอร์โมนที่สำคัญต่อร่างกาย

ฮอร์โมนที่ไทรอยด์ผลิตออกมามีบทบาทอย่างมากในการควบคุมกิจกรรมหลายอย่างในร่างกาย ดังนี้

  • การเผาผลาญพลังงาน : ฮอร์โมนที่ต่อมไทรอยด์ผลิตออกมาจะช่วยควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย ว่าจะเผาผลาญช้าหรือเร็ว
  • การเติบโตและพัฒนาการ : สำหรับเด็ก ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและการพัฒนาสมอง
  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย
  • ระบบประสาทและอารมณ์ : ฮอร์โมนไทรอยด์ยังมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึกอีกด้วย

 

สัญญาณเตือนไหน...ที่บอกว่าไทรอยด์มีปัญหา

การทำงานผิดปกติของไทรอยด์ จะไม่แสดงอาการออกมาในทันที แต่จะแสดงอาการออกมาเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามักมองข้าม ดังนั้นการหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนเบื้องต้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ อาการที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาไทรอยด์ ได้แก่

เหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ : รู้สึกเหนื่อยง่ายหรือหมดแรงแม้ว่าจะพักผ่อนอย่างเพียงพอ

น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงอย่างผิดปกติ : น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน หรือไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแต่กลับมีน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ

อุณหภูมิร่างกายไม่สมดุล : รู้สึกหนาวง่ายหรือร้อนเกินกว่าปกติ

มีปัญหาผิวหนังและเส้นผม : ผิวแห้ง แตก หรือผมร่วงผิดปกติ

มีอาการทางจิตใจ : รู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย

 

ประเภทของโรคไทรอยด์ที่พบได้บ่อย

อาการผิดปกติของไทรอยด์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ ซึ่งทั้งสองมีอาการและการรักษาที่แตกต่างกันออกไป

 

ไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism)

ไทรอยด์ทำงานมากเกินไปส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์เกินความจำเป็น ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานเร็วเกินไป อาการที่พบได้บ่อยได้แก่ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็ว กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ และมีเหงื่อออกมาก

 

ไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)

ในกรณีนี้ต่อมไทรอยด์ทำงานช้าลง ทำให้ผลิตฮอร์โมนได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง อาการที่พบบ่อยได้แก่ น้ำหนักเพิ่มขึ้น รู้สึกเหนื่อยล้า ซึมเศร้า และผิวแห้ง

 

ตรวจเช็คไทรอยด์...รู้ทันและรักษาได้ก่อนที่จะสาย

การตรวจเช็คไทรอยด์เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการตรวจวัดว่าระดับฮอร์โมนไทรอยด์ของคุณปกติหรือไม่ โดยการตรวจเลือดสามารถบอกระดับของฮอร์โมนไทรอยด์ (T3, T4) และ TSH (Thyroid Stimulating Hormone) ที่ใช้ควบคุมการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ หากค่าตัวเลขเหล่านี้ผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

 

การรักษาและดูแลไทรอยด์ให้ทำงานสมดุล

  • กรณีไทรอยด์ทำงานเกิน : อาจใช้ยาที่ช่วยยับยั้งการทำงานของไทรอยด์ หากอาการรุนแรง แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดหรือการรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตรังสี
  • กรณีไทรอยด์ทำงานต่ำ : การรักษามักใช้ยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน เพื่อให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนในระดับที่เหมาะสม รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

 

ดูแลสุขภาพไทรอยด์ในชีวิตประจำวันง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้

นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันก็มีส่วนสำคัญในการดูแลไทรอยด์ให้ทำงานปกติ สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น

  • รับประทานอาหารที่มีไอโอดีน : ไอโอดีนมีความสำคัญอย่างมากในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ การรับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น เกลือเสริมไอโอดีน สาหร่ายทะเล และปลาทะเล จะช่วยให้การทำงานของต่อมไทรอยด์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างสมดุล ไม่เพียงแต่จะช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แต่ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
  • การพักผ่อนที่เพียงพอ : การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนไทรอยด์
  • จัดการกับความเครียด : ความเครียดมีผลกระทบต่อการทำงานของไทรอยด์ ดังนั้นการหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดจึงสามารถช่วยให้ไทรอยด์ทำงานได้อย่างสมดุล

 

ไทรอยด์อาจเป็นต่อมที่มีขนาดเล็ก แต่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพในร่างกาย การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือนและตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาโรคไทรอยด์ หากคุณรู้สึกว่ามีอาการที่เกี่ยวข้องกับไทรอยด์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

 

บทความโดย
นายแพทย์พิทยา กนกจรรยา
แพทย์ประจำสาขาโสต ศอ นาสิก
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนกหู ตา คอ จมูก
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ 
โทร.02-363-2000 ต่อ 2540-2541
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่

Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn