ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็น ภาวะ ที่ ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดน้อยลง จนทำให้ กระดูก มี ความเปราะบาง ส่งผลให้มี ความเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย โดยปกติ กระดูก จะประกอบไปด้วย เซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) ที่ทำหน้าที่ สร้างเซลล์กระดูก ขึ้นมาใหม่ตามกระบวนการเติบโตของร่างกาย และ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จาก แคลเซียม และ โปรตีน และ เซลล์สลายกระดูก (Osteoclast) ที่ทำหน้าที่ สร้างสลายเนื้อกระดูกเก่า หากเกิด การสลายตัวของกระดูกเร็วกว่าการสร้างกระดูก ก็จะทำให้เกิด “ภาวะกระดูกพรุน”
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุน
หลายคนอาจคิดว่า ภาวะกระดูกพรุน มักมี สาเหตุ มาจาก อายุที่เพิ่มขึ้น เพียงเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วยังมี ปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิด ภาวะกระดูกพรุน ได้ ดังนี้:
ภาวะกระดูกพรุน เป็น ภาวะ ที่ไม่มี อาการเตือน ใดๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิด อุบัติเหตุ ที่ทำให้ กระดูกหัก เสียแล้ว แต่ก็สามารถสังเกตตัวเองได้หากพบ อาการบ่งชี้ เหล่านี้ ซึ่งเป็น สัญญาณของภาวะกระดูกพรุน:
ภาวะแทรกซ้อน ที่ตามมาเมื่อเป็น ภาวะกระดูกพรุน คือ ความเจ็บปวด จาก ภาวะกระดูกทรุดตัว หรือ อาการปวดหลัง ทำให้มีข้อจำกัดมากขึ้นในการ เคลื่อนไหว และทำกิจกรรมต่างๆ ใน ชีวิตประจำวัน รวมถึงมีโอกาสที่ กระดูก จะ แตกหักง่าย แม้จะได้รับการกระแทกหรือแรงกดที่ไม่แรง นั่นจึงส่งผลให้เกิด ผลกระทบทางจิตใจ อย่าง ภาวะซึมเศร้า ได้อีกด้วย
หากเกิด การแตกหักบริเวณกระดูกสะโพก อาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถ เดิน หรือ เคลื่อนไหว ได้ ทำให้ต้องอยู่กับที่ตลอดเวลา อาจก่อให้เกิด ภาวะแทรกซ้อน ตามมาอย่าง แผลกดทับ หรือ โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือ ระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็น ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ที่เป็นเหตุให้ เสียชีวิต ได้
ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก....ป้องกันอันตรายจากภาวะกระดูกพรุน
การวินิจฉัยภาวะกระดูกพรุน สามารถทำได้โดย การตรวจวัดความหนาแน่นมวลกระดูก (Bone Mineral Density, BMD) เป็น การตรวจ เพื่อหาค่า ความหนาแน่นของกระดูก ตามส่วนต่างๆ เพื่อ ประเมินความเสี่ยง ในการเกิด โรคกระดูกพรุน โดยตำแหน่งที่ ตรวจ มักจะเป็นบริเวณ กระดูกสันหลัง, กระดูกสะโพก, กระดูกข้อมือ เนื่องจากบริเวณเหล่านี้เป็นบริเวณที่มี การแตกหักของกระดูก จาก ภาวะกระดูกพรุน ได้บ่อย หรือหากจำเป็นก็สามารถ ตรวจมวลกระดูก ได้ทั่วตัว
โดย ผลการตรวจ จะออกมาเป็น ค่าความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งในคนปกติจะอยู่ที่มากกว่า -1.0 ส่วนคนที่มี ภาวะกระดูกบาง (Osteopenia) จะมีค่าอยู่ระหว่าง -1.0 ถึง -2.5 และผู้ป่วย ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) จะมีค่า BMD น้อยกว่า -2.
การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกดีอย่างไร?
ทุกคนล้วนมีโอกาสเป็น ภาวะกระดูกพรุน แต่ก็ใช่ว่าจะ ป้องกัน ไม่ได้ ภาวะกระดูกพรุน หากรู้เท่าทันก็สามารถ ป้องกัน ได้ โดย การดูแลตนเอง และ บำรุงกระดูก ด้วย วิธีต่างๆ ดังนี้:
หากไม่อยากให้ตนเองเป็นหรือเสี่ยงต่อ ภาวะกระดูกพรุน ก็ต้องหันมาใส่ใจ สุขภาพ ของตนเองเพียงแค่เริ่มต้นจาก การกิน หรือหากมีความสงสัยเกี่ยวกับ มวลกระดูก การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก ก็สามารถช่วยให้รับรู้ถึง มวลกระดูก และสามารถปรับ พฤติกรรมต่างๆ ให้ สุขภาพ แข็งแรงได้ เพราะ “การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา”