สัญญาณเตือนจากอาการปวดท้อง…อาจบ่งบอกถึงโรคเรื้อรัง

ปวดท้อง เป็นสัญญาณหรืออาการเตือนอย่างหนึ่งของโรค โดยเฉพาะโรคที่เกิดกับอวัยวะภายในช่องท้อง โดยตัวโรคจริงๆ อาจยังไม่ปรากฏอาการที่ชัดเจน และหากไม่ได้รับการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง โรคอาจลุกลามรุนแรงจนเกิดภาวะฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

 

ปวดท้องแต่ละแบบ...บอกโรคอะไรได้บ้าง?

มะเร็งกระเพาะอาหาร : มักไม่มีอาการแสดงเฉพาะ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการที่ไม่ชัดเจน เช่น ปวดท้อง ไม่สบายท้อง เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ท้องอืด คลื่นไส้ หรือแสบร้อนบริเวณอก อาการเหล่านี้อาจแสดงถึงโรคที่มีลักษณะอาการใกล้เคียงกัน อย่างโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบก็ได้

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก : มักพบอาการปวดท้องเรื้อรัง ท้องอืดเรื้อรัง อ่อนเพลีย หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่น ท้องเสียสลับท้องผูก ถ่ายเป็นมูกเลือดปนมากับอุจจาระ ถ่ายไม่สุดและลักษณะของอุจจาระมีขนาดเล็กลง รวมถึงอาจคลำพบก้อนบริเวณท้อง เป็นต้น

มะเร็งตับอ่อน : ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ท้องอืด ท้องเสีย รู้สึกเบื่ออาหาร พร้อมกับมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง และอาจคลำพบก้อนที่ท้อง โดยมะเร็งตับอ่อนมักเกิดที่บริเวณส่วนหัวและส่วนปลายของตับอ่อน

แผลในกระเพาะอาหาร : มีอาการปวดแสบปวดร้อนในกระเพาะอาหาร หรือปวดแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ โดยมักจะเป็นๆ หายๆ เรื้อรังเป็นระยะเวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี มีอาการปวดในช่วงที่ท้องว่างหรือเวลาหิว และหากพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง อาหารไม่ย่อย ถ่ายเป็นเลือดสดๆ หรือเป็นมูกเลือดสีดำหรือแดง ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง : จะมีอาการจากภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่าง แต่อาการสำคัญที่อาจบ่งบอกถึงโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง คือ ปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนแบบเรื้อรัง โดยอาจปวดตลอดเวลาหรือเป็นๆ หายๆ อาจมีอาการร่วมกับถ่ายเป็นสีเทาหรือสีซีดลง

ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง : โรคถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการที่ไม่ชัดเจน แต่สามารถสังเกตได้จากอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงด้านขวา โดยมักเป็นๆ หายๆ ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ และเพราะไม่มีอาการที่จำเพาะของโรค จึงทำให้บ่งบอกถึงโรคนี้ได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจอย่างละเอียด

ทั้งนี้ยังมีอาการปวดท้องอื่นๆ ที่อาจบ่งบอกถึงโรคในระบบทางเดินอาหารหรืออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายได้อีกมาก หากมีอาการปวดท้องหรือรู้สึกว่ามีความปกติใดๆ เกิดขึ้นในร่างกาย ทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัย และการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการมาพบแพทย์โดยเร็วจะช่วยให้พบโรคตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก เป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้นด้วย

 

ปวดท้องแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ทันที?

• ปวดท้องนานเกินกว่า 6 ชั่วโมง โดยไม่มีท่าทีทุเลาลง
• ปวดท้องร่วมกับอาเจียน
• ปวดท้องรุนแรง จนไม่สามารถนอนหลับได้
• ปวดท้องร่วมกับมีเลือดออกทางช่องคลอด
• ปวดท้องและมีไข้ร่วมด้วย
• ปวดท้องร่วมกับมีอาการหอบเหนื่อย หน้ามืด เป็นลม หรือหมดสติ
• ปวดท้องทะลุร้าวไปที่หลัง

 

การผ่าตัดผ่านกล้อง...ทางเลือกในการรักษากลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร

การผ่าตัดผ่านกล้อง หรือ Minimal Invasive Surgery (MIS) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษากลุ่มโรคระบบทางเดินอาหารและช่องท้องที่มีความปลอดภัยสูง แผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก ส่งผลให้เกิดพังผืดน้อย ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนด้านการติดเชื้อ กล้องที่ส่องเข้าไปยังอวัยวะภายในมีกำลังขยายสูง 5-20 เท่า จึงช่วยให้เห็นรายละเอียดของรอยโรคและอวัยวะในช่องท้องได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเนื้อเยื่อ เส้นเลือด รวมถึงเส้นประสาท สามารถผ่าตัดได้ทั้งโรคพื้นฐานและกลุ่มโรคที่มีความยุ่งยากซับซ้อนสูงในระบบทางเดินอาหาร เช่น

• กลุ่มโรคลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เช่น มะเร็งลำไส้ ลำไส้อุดตัน
• กลุ่มโรคตับ เช่น ผ่าตัดมะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน
• กลุ่มโรคระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคที่ต่อมหมวกไต มะเร็งในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก
• ผ่าตัดกระเพาะอาหาร
• ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
• ผ่าตัดไส้ติ่ง
• ผ่าตัดไส้เลื่อน

 

การผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ใช่แค่รักษา...แต่ตรวจหาโรคก็ทำได้!

ไม่เพียงแต่การรักษาเท่านั้น การผ่าตัดผ่านกล้องยังสามารถใช้ในการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของอาการปวดท้องได้ โดยแพทย์จะสามารถวิเคราะห์โรคในขณะส่องกล้องได้เลย กรณีแพทย์พบความผิดปกติในส่วนใดของระบบทางเดินอาหาร ก็สามารถตัดชิ้นเนื้อได้ทันที เพื่อนำไปส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ และนำผลมาวินิจฉัยว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่

 

อาการปวดท้อง แม้จะเป็นอาการปวดเพียงนิดเดียว แต่สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีความซับซ้อนในการตรวจโรค ดังนั้นการหมั่นตรวจเช็กร่างกายหรือตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรารู้ถึงสภาพความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เพื่อการรักษาหรือป้องกันการลุกลามได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนก อายุรกรรมระบบทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2420-2421
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดี ๆ ได้ที่
Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn