-
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น นั่นคือปัญหาที่เกิดขึ้นกับข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดได้จากทั้งการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักเป็นประจำ การมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน และอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในโรคทางข้อเข่าที่เกิดขึ้นคงหนีไม่พ้น “โรคข้อเข่าเสื่อม” ที่เป็นโรคที่เกิดจากกระดูกอ่อนบริเวณข้อเริ่มสึกหรอ ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างข้อมากขึ้น ทำให้น้ำเลี้ยงข้อเข่าที่คอยหล่อลื่นข้อเข่าให้เคลื่อนไหวได้ไม่ติดขัดเริ่มมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จนเกิดอาการผืด ตึง หรือติดขัดเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่ใช้ข้อเข่า และเกิดเป็นอาการปวดเข่าได้ในที่สุด แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยหนึ่งในวิธีการรักษาข้อเข่าที่เรียกว่า “การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า”
การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า...หนึ่งในวิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเป็นการฉีดสารน้ำเลี้ยงข้อที่เลียนแบบคุณสมบัติของข้อตามธรรมชาติเข้าไปบริเวณข้อเข่า เพื่อให้สารเข้าไปช่วยหล่อลื่นบริเวณข้อและกระดูกอ่อน และทำให้เซลล์กระดูกอ่อนฟื้นฟูสภาพจากการสึกกร่อนขึ้นมาได้ ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบของข้อเข่าจากการเสื่อมสภาพของผิวข้อกระดูกอ่อนที่ถูกทำลายลงจากการขาดน้ำเลี้ยงข้อเข่า ทั้งยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำเลี้ยงข้อเข่าได้อีกด้วย
การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเหมาะกับใคร?
แม้การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าจะสามารถบรรเทาอาการปวดข้อเข่าให้กับผู้ที่เป็นโรคทางข้อเข่า แต่การรักษาด้วยวิธีนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะหากผู้ป่วยที่มารับการรักษามีการติดเชื้อมาก่อน เป็นโรคทางผิวหนังในบริเวณที่ต้องการฉีด หรือมีเลือดออกในข้อจากการเกิดอุบัติเหตุ แพทย์อาจแนะนำวิธีอื่นในการรักษาแทน
รู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ที่ควรฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า?
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดข้อเข่า หรือมีการใช้งานบริเวณข้อเข่าแล้วเกิดการอักเสบ รวมถึงได้รับการรักษาเบื้องต้น เช่น พักการใช้งานของข้อเข่า หรือทานยาลดแล้วไม่ทุเลาลงหรือรุนแรงกว่าเดิม แนะนำให้ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเพื่อฟื้นฟูสภาพของข้อให้ดีขึ้น
การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า มีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไร?
เมื่อแพทย์ตรวจวินิจฉัยว่าสมควรฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการฉีดโดยทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในบริเวณตำแหน่งที่ต้องการฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งลักษณะการฉีดจะคล้ายกับการฉีดวัคซีนทั่วไป โดยการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท
ผลข้างเคียงหลังการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า
ผู้ป่วยอาจพบเพียงอาการปวด บวม แดง เหมือนการฉีดยาทั่วไปหรืออาจมีอาการปวดตึงเล็กน้อยบริเวณข้อเข่า 15 - 60 นาทีหลังการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เอง แต่หากมีอาการผิดปกตินอกเหนือจากนี้ควรรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การปฏิบัติตัวหลังการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า
หลังการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้อเข่าที่มากเกินไป เช่น การเดินมากๆ หรือการคุกเข่าเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการใช้ข้อเข่ามากเกินไป ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการจากผลข้างเคียงหลังการฉีดได้ เมื่ออาการปวดข้อเข่าดีขึ้นแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองร่วมกับการรักษาเพื่อป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับโรคทางข้อเข่าในอนาคต เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและไม่หักโหมเพื่อฟื้นฟูข้อเข่า ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือการทำกายภาพบำบัด เป็นต้น
การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีประสบการณ์ในการฉีดยาข้อเข่า เนื่องจากการฉีดยามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ซึ่งศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีความพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องมือในการรักษา และสามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับแนวทางการรักษาโรคทางข้อเข่า