ในช่วงภาวะการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตลูกน้อย ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และจะดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพมารดาเป็นหลัก นอกจากการดูแลสุขภาพ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การได้รับวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ สำหรับคุณแม่ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ
ปัจจุบันมีเชื้อโรคหลายชนิดที่ทารกสามารถติดเชื้อได้ตั้งแต่ในช่วง 2-6 เดือนแรก ซึ่งเด็กในวัยนี้จะมีข้อจำกัดในการได้รับวัคซีน ฉะนั้นการฉีดวัคซีนให้คุณแม่ตั้งครรภ์ นอกจากจะช่วยให้คุณแม่แข็งแรงแล้วยังเสริมภูมิคุ้มกันที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ ซึ่งหลังคลอดแล้ว ภูมิคุ้มกันยังช่วยป้องกันไม่ให้เด็กติดเชื้อในระยะ 6 เดือนแรก ด้วย
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เพราะหากติดเชื้อโควิด จะมีอันตรายและส่งผลให้มีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อยู่ในไตรมาสที่ 3 ถือเป็นระยะอันตรายที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากขนาดของมดลูกจะค่อนข้างโต ทำให้ปอดของคุณแม่ขยายตัวได้ไม่ดี หากได้รับเชื้อ จึงมักพบอาการที่รุนแรง มีโอกาสเกิดภาวะปอดอักเสบสูง
วัคซีนคือ สารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อต่อต้านการเกิดโรค โดยส่วนใหญ่สารจะมาจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือพิษของเชื้อแบ่งออกได้เป็น3 ชนิด ได้แก่- ท็อกซอยด์ (Toxoids) เป็นวัคซีนที่ได้จากการนำเชื้อโรคมาทำลายความเป็นพิษให้หมดไป แต่ยังมีคุณสมบัติในการนำมากระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เช่น พิษจากโรคคอตีบ พิษจากโรคบาดทะยัก เป็นต้น
- วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Killed Vaccine) เป็นวัคซีนที่ได้จากการนำเชื้อโรคมาทำให้ตาย อาจใช้เชื้อทั้งตัว หรือสกัดเอาบางส่วนของเชื้อมาทำวัคซีน เช่น วัคซีนไอกรน วัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาล วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด วัคซีนตับอักเสบบี เป็นต้น
- วัคซีนชนิดเชื้อเป็น (Live Attenuated Vaccine) เป็นวัคซีนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเชื้อโรค แล้วนำเชื้อโรคมาทำให้อ่อนแรงลงจนไม่สามารถก่อโรคได้ แต่ยังมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เช่น วัคซีนหัดเยอรมัน คางทูม เป็นต้น
ปัจจุบัน มีวัคซีนอยู่หลายชนิดด้วยกันซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยปกติคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกรายควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์แต่มีบางรายที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อนที่จะตั้งครรภ์ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดโรคได้
เหตุใด วัคซีนจึงมีความสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์? วัคซีนมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ จริงๆ แล้ววัคซีนมีความสำคัญกับคุณแม่ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพราะก่อนการตั้งครรภ์คุณแม่ควรได้รับวัคซีนที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์คือ “วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน” เพื่อป้องกันอันตรายต่อทารกในครรภ์ในอนาคตซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก
หัดเยอรมันน่ากลัวเพียงใดสำหรับทารกน้อยหัดเยอรมัน เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส หากเป็นในระยะตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ทารกเกิดความพิการได้ เมื่อทารกมีการติดเชื้อไวรัสจะทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ต่างๆ ของทารกในครรภ์หยุดลง หรือทำให้อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ มีขนาดเล็ก และมีการสร้างเซลล์น้อยกว่าปกติ การสร้างอวัยวะช้า และผิดปกติไป ส่งผลทำให้มีอวัยวะที่ผิดปกติเพื่อความปลอดภัยของว่าที่คุณแม่และทารกในอนาคต หลังฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันแล้ว ควรคุมกำเนิดที่ต้องให้ผลแน่นอนต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากเชื้อไวรัสหัดเยอรมันที่นำมาผลิตเป็นวัคซีนเป็นเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกทำให้อ่อนแรงลง เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจึงทำให้ร่างกายทำการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาภายใน 60 วัน และเชื้อไวรัสจึงจะถูกทำลายไป ภูมิคุ้มกันนี้จะคงอยู่นานหลาย ปีและเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายอีก ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ จึงไม่ก่อให้เกิดโรค และคุ้มครองได้ตลอดชีวิตของคุณแม่
ก่อนตั้งครรภ์ไม่ได้ฉีดวัคซีน ระหว่างตั้งครรภ์ควรฉีดวัคซีน :
- วัคซีนบาดทะยัก องค์การอนามัยโลกได้จัดให้เป็นวัคซีนที่คุณแม่ควรฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อบาดทะยักในทารกแรกเกิด การฉีดวัคซีนบาดทะยักเป็นวัคซีนตัวตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์บาดทะยัก ช่วยป้องกันโรคบาดทะยักในแม่ และทารกที่เกิดมาด้วย ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์
- วัคซีนคอตีบ เป็นวัคซีนตัวตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์คอตีบ เนื่องจากวัคซีนไม่มีอันตราย จึงแนะนำให้ฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ ป้องกันโรคคอตีบในแม่และป้องกันคอตีบในลูกที่คลอดมา
- วัคซีนไอกรน โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หากเป็นมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้ วัคซีนไอกรนเป็นวัคซีนตัวตายสามารถฉีดในคนท้องได้ ช่วยป้องกันโรคไอกรนในแม่และลูกที่คลอดมา ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำอันตรายให้กับคนท้องมากกว่าคนธรรมดา ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นที่มาให้แม่และทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ ฉีดวัคซีน 1 เข็ม สามารถช่วยป้องกันได้ 1ปี โดยเริ่มฉีดตั้งแต่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีด โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนนี้เป็นวัคซีนตัวตายซึ่งไม่มีอันตรายต่อแม่หรือลูก
ในภาวะ Covid-19 วัคซีนที่ควรฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ วัคซีนป้องกัน Covid-19 ซึ่งควรฉีดในสตรีตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์
วางแผนการฉีดวัคซีน ควรฉีดแต่ละเข็มห่างกัน 2- 4 สัปดาห์ และฉีดวัคซีนตัวที่สำคัญก่อน
ประเภท | ยี่ห้อ | 12 สัปดาห์ | 16 สัปดาห์ | 18 สัปดาห์ | 22 สัปดาห์ | 27 สัปดาห์ |
---|
Dead Virus mRNA | Sinovac Sinofarm pfizer Moderna | Covid เข็ม 1 | Covid เข็ม 2 | ไข้หวัดใหญ่ | คอตีบ + บาดทะยัก | ไอกรน |
แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลเปาโล พระประแดง
โทร . 02 818 9000 ต่อ 100