title
เออร์กอต (Ergot) เป็นยารักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ออกฤทธิ์รักษาอาการปวดศีรษะ เพราะเมื่อเส้นเลือดขยายตัว สมองของคนที่เป็นไมเกรนจะมีการรับรู้ความรู้สึกปวดมากกว่าคนอื่น เมื่อรับประทานยาเข้าไป ตัวยาจะออกฤทธิ์ในการรักษาอาการปวดศีรษะ โดยการกระตุ้นตัวรับของสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดที่ขยายตัวผิดปกติ เกิดการหดตัวลง และทำให้อาการปวดศีรษะหายไปในที่สุด
.jpg)
รับประทานอย่างไร ให้ถูกต้อง
เนื่องจากยาตัวนี้ทำให้หลอดเลือดหดตัว ผู้เป็นไมเกรนควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเออร์กอต ต้องใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดเท่านั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวัน และไม่ควรเกิน 5 - 6 เม็ดต่อวัน โดยปกติอาการปวดศีรษะไมเกรนทั่วไปจะปวดไม่เกิน 3 วัน ถ้าเกินกว่านี้ควรมาพบแพทย์ การรับประทานยาเออร์กอตในปริมาณที่มากไปอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมทั้งมีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน ปลายมือปลายเท้าเย็น ชารอบปาก และยังทำปฏิกิริยากับยาชนิดอื่นๆ หรือที่เรียกว่า “ยาตีกัน” ที่ส่งผลเสริมฤทธิ์ยานั้นๆ ให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น จนเกิดผลเสียมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่ควร รับประทานยาเออร์กอต (Ergot) ร่วมกับกลุ่มยาเหล่านี้
1. Protease inhibitor หรือ ยาต้านไวรัสเอชไอวี เช่น lopinavir, Ritonavir 2. ยากลุ่มฆ่าเชื้อรา ชนิดรับประทาน เช่น Ketoconazole 3. ยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม Macrolide เช่น Clarithromycin 4. ยาลดความดันบางชนิด เช่น Diltiazem 5. ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด เช่น Fluoxetine
ในกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว มียารับประทานอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรรับประทานยาแก้ปวดไมเกรนกลุ่ม เออร์กอต (Ergot) เพราะผลข้างเคียงที่ต้องระวัง คือ มีฤทธิ์หดหลอดเลือดได้ ในกรณีที่ยาออกฤทธิ์มากเกินไป จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น แขน ขา ขาดเลือดจนต้องตัดทิ้ง หรือ เส้นเลือดสมองตีบ ผู้ที่ต้องระวังการใช้ยา Ergot
- มีประวัติแพ้ยา Ergot
- มีประวัติหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน
- หญิงตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
- โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือ กล้ามเนื้อหัวใจ
- โรคตับ หรือโรคไตขั้นรุนแรง
- ความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมไม่ได้
- กลุ่มคนที่รับประทานยาอื่นๆ ที่ทำปฏิกิริยาต่อ Ergot ที่กล่าวไปแล้ว ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
นอกจากนี้ ยังมียาไมเกรนอีกชนิดที่ใช้บ่อย คือ กลุ่มทริปแทน (Triptan) ลงท้ายชื่อยาด้วย Triptan ที่ผู้บริโภคควรระมัดระวัง เพราะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเออร์กอต (Ergot) ทำให้หลอดเลือดมีการหดตัว และไม่ควรใช้คู่กัน เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายเช่นกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โรคระบบประสาทและสมอง โทร. 1772