อีกหนึ่งอาการที่สังเกตได้ของมะเร็งลำไส้ ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดและคิดว่าไม่อันตราย ทั้งที่ความจริงแล้วนี่คือสัญญาณบอกว่าอันตรายกำลังมาหาเรา นั่นคือการถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
อ่อนเพลียเพราะเสียเลือด
สำหรับคนที่ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดบ่อยครั้งและเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการเสียเลือดจนอ่อนเพลียผิดปกติได้ หรือบางคนถ้าเสียเลือดมากก็อาจจะทำให้ช็อคได้เช่นกัน แต่ลักษณะของอุจจาระที่มีมูกเลือดปนมานี้ ยังมีจุดสังเกตอีกหนึ่งอย่าง คือขนาดของอุจจาระจะเล็กลง เพราะมีความผิดปกติที่ลำไส้นั่นเอง
พฤติกรรมการขับถ่ายที่เปลี่ยนไป
- มักมีเลือดปนออกมาทุกครั้งที่ถ่ายอุจจาระ แต่ลักษณะจะแตกต่างจากคนที่เป็นริดสีดวงทวาร เพราะจะเป็นเลือดที่ปนออกมากับอุจจาระเลย ไม่ได้เป็นลักษณะเลือดสดๆ หยดตามมาทีหลังเหมือนริดสีดวงทวาร
- บางครั้งอาจจะมีเลือดออกมาทางทวารหนัก
- พฤติกรรมการขับถ่ายเริ่มผิดปกติจากที่เคยเป็น เช่นมีอาการท้องผูกทั้งที่ขับถ่ายเป็นปกติทุกวัน
- มักจะมีอาการปวดอุจจาระบ่อยเป็นพิเศษ แม้จะรับประทานอาหารเป็นปกติ
- มีอาการปวดมวนท้องแปลกๆ บางคนอาจจะมีอาการคล้ายท้องเสีย แต่นั่งถ่ายก็ไม่ออกและบ่อยครั้งมีอาการปวดท้องบิดแต่ไม่นานก็หาย สักพักก็จะกลับมาเป็นใหม่อีก แบบนี้สลับกันไปมา ทำให้ไม่สบายตัว
ทำไม “มะเร็งลำไส้” ถึงขับถ่ายแล้วมีเลือด?
เพราะจริงๆ แล้วมะเร็งในแต่ละช่วงของลำไส้ล้วนมีผลต่อการขับถ่ายทั้งนั้น แบ่งเป็น 3 ช่วงตอน คือ
- ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ที่เกิดขึ้นบริเวณลำไส้ส่วนต้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริเวณที่อุจจาระยังเหลวอยู่ แต่ถึงจะเหลว เวลาขับถ่ายก็ทำให้มีเลือดปนออกมาด้วย ลักษณะแบบนี้ถ้าสังเกตจะพบว่ามีความผิดปกติซ่อนอยู่
- ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ส่วนกลาง ก็จะทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด เวลาขับถ่ายจะมีเลือดปะปนออกมาด้วย
- ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ส่วนปลายจะทำให้การขับถ่ายไม่ดีและเป็นส่วนที่ทำให้อุจจาระมีลักษณะเล็กลงกว่าปกติ พร้อมกับมีมูกเลือดปนออกมาได้
อย่ามัวเก็บความสงสัยนี้ไว้…รีบปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด
ไม่ว่าจะเกิดก้อนมะเร็งที่บริเวณไหนของลำไส้ก็ทำให้มีโอกาสเกิดมูกเลือดปนมากับอุจจาระทั้งนั้น ที่สังเกตได้ชัด คือสีของอุจจาระที่เปลี่ยนไป เป็นคล้ำเข้ม หากไปพบแพทย์ก็จะมีการตรวจอุจจาระ ถ้ามีเลือดปนก็อาจจะมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ แต่ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะเริ่มต้นอาจจะพบในปริมาณที่น้อยมาก ต้องใช้วิธีการตรวจอื่นๆ ร่วมเพื่อตรวจดูระดับโปรตีนที่เป็นตัวสร้างเซลล์มะเร็ง นั่นคือ CEA (Carcino-Embryonic Antigen) ช่วยให้ตรวจพบอาการผิดปกติที่เกิดจากเซลล์มะเร็งได้ไม่ยาก เพราะ ฉะนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขับถ่ายแล้วมีมูกเลือดปนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสอบให้สบายใจ หรือหาหนทางแก้ไขต่อไปจะดีที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
โทร.02-271-7000 ต่อ โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ