Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset

เชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดโรคได้ในหลายอวัยวะทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย และยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ

เชื้อไวรัส HPV ติดต่อได้ทางไหน?

การติดเชื้อไวรัส HPV มักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ซึ่งในภาวะปกติเมื่อร่างกายได้รับเชื้อก็จะมีกระบวนการในการกำจัดเชื้อโรคให้หมดไป แต่ในหลายกรณีพบว่า ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสออกไปได้หมด จึงทำให้ผู้ที่ติดเชื้อเสี่ยงต่อการพัฒนาเป็นโรคมะเร็งในอวัยวะต่างๆ โดยเชื้อไวรัส HPV สามารถแฝงตัวอยู่ในร่างกายของเราได้ยาวนานกว่า 10 ปี แบบที่ไม่แสดงอาการผิดปกติให้รู้ตัวหากไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ ด้วยเหตุนี้เองจึงอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

จะป้องกัน และลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี และตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ทุก 5 ปี หากมีอาการผิดปกติทางนรีเวชใดๆ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจหรือปล่อยทิ้งไว้ ควรเข้ารับการตรวจหรือปรึกษาสูตินรีแพทย์โดยเร็ว สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายนั้น สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก มีกี่ชนิด?

ในปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ

วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (6/18)

วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (6/11/16/18)

วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (6/11/16/18/31/33/45/52/58)

 

ซึ่งเกณฑ์ในการฉีดวัคซีนจะแบ่งตามช่วงอายุ คือ อายุ 9-14 ปี ต้องฉีด 2 เข็ม และอายุ 15 ปี ขึ้นไป ฉีด 3 เข็ม โดยวัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่บรรจุในวัคซีน ได้มากกว่า 90% ทั้งนี้ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อเลือกชนิดและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับวัคซีน

สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลเปาโล เกษตร

โทร. 02 1500 900 ต่อ 5420