โรคลมชักในเด็ก อันตรายกว่าที่คุณคิด
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
19-ต.ค.-2565
title “โรคลมชัก” เป็นโรคที่มีอันตรายสูงทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง เพราะ “อาการลมชัก” จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราเองก็ไม่สามารถรู้ตัวเองได้ อย่างในต่างประเทศนั้นมีการออกกฏห้ามไม่ให้คนที่เป็นโรคลมชักขับรถ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่สำหรับเด็กที่มีอาการลมชัก หากพ่อแม่สามารถสังเกตอาการของลูกน้อยได้เร็ว ก็จะช่วยให้เด็กสามารถถึงมือหมอได้อย่างทันเวลา

โรคลมชัก… คืออะไร
โรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของการนำกระแสประสาทในสมอง ทำให้ร่างกายเกิดการชักเกร็งไปทั้งตัวซึ่งเด็กที่เป็นลมชักมักจะจำไม่ได้ว่าตัวเองชัก เราเรียกโรคลมชักนี้ว่า “ลมบ้าหมู” ซึ่งอาจเกิดได้จากทั้งกรรมพันธุ์ หรือการที่สมองได้รับอันตรายเช่น ขาดออกซิเจน หรือสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง เนื้องอกในสมอง หรือการติดเชื้อในระบบประสาท โดยเด็กที่เป็นโรคลมชักจากการที่สมองได้รับอันตรายมักจะมีพัฒนาการด้านร่างกายและสมองผิดปกติร่วมด้วย

อาการแบบไหนเรียกว่า “ลมชัก”  
เมื่อเด็กเป็นโรคลมชักจะมีอาการชักทั้งตัว เวลาชักจะเกร็งและกระตุกนานมากกว่า 2 – 3 นาที แต่ก็ยังมีโรคลมชักประเภทหนึ่งคือ โรคลมชักเหม่อ เป็นการเหม่อประมาน 30 วินาที มีการเหม่อลอยเป็นพักๆ หรือจู่ๆ คุยแล้วก็หยุดนิ่งไป และอาการจะหายไปเองซึ่งมักจะเป็นในเด็กที่มีอายุ 5 – 10 ปี


การรักษา เมื่อลูกเป็นลมชัก
พ่อแม่จะต้องคอยสังเกตว่ารายละเอียดของการชัก เช่น ลูกมีอาการชักบ่อยแค่ไหน และปกติจะชักช่วงเวลาไหน ขณะที่นอนหลับหรือตอนตื่น เป็นมานานหรือยัง หรือเมื่อชักแล้วมีอาการนานขนาดไหน ในขณะที่ชักมีอวัยวะส่วนไหนบ้างที่เกร็งหรือกระตุก และโดยปกติแล้วอาการชักจะเกิดขึ้นมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไปแม้ว่าจะไม่มีสิ่งมากระตุ้นก็ตาม ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว คุณหมอก็จะเจาะเลือดดูระดับน้ำตาล ดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ รวมไปถึงตรวจความผิดปกติของสมองซึ่งจะมีการตรวจน้ำไขสันหลังร่วมด้วย เช็กประวัติการคลอด ประวัติครอบครัว เป็นต้น และถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่เจอสาเหตุของการชัก แต่การที่พาลูกไปให้คุณหมอตรวจอาการจนได้รับคำยืนยันว่าเป็นโรคลมชักนั้น จะช่วยทำให้เด็กได้รับยาที่ถูกต้อง ซึ่งก็ควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ เพราะการชักจะส่งผลต่อพันาการของเด็ก ทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และมีความก้าวร้าวมากขึ้น แต่เมื่อเด็กโตขึ้นอาการชักก็จะค่อยๆ เริ่มลดลงและหายไปในที่สุด


รับมืออย่างไร เมื่อลูกเป็นลมชัก 
สิ่งแรกสำหรับพ่อแม่ที่ต้องเตรียมพร้อมเลยคือ สติ ต้องไม่ตกใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกของคุณอยู่เสมอ พยายามให้เด็กอยู่ในที่โล่ง คลายเสื้อผ้าที่รัดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี ถ้าเด็กนั่งอยู่ให้จับเด็กนอนราบลงกับพื้นพร้อมกับตะแคงหัวเด็กให้หันไปด้านข้าง เพื่อไม่ให้เด็กสำลัก ถ้าตัวเด็กเกร็ง งอ หรือตึง ไม่ควรไปนวดบีบหรือพยายามฝืนอาการของเด็ก และที่สำคัญห้ามเอาอะไรใส่ปากเด็กเพราะจะทำให้เด็กสำลักหรือหายใจไม่สะดวก พร้อมกับจับเวลาและสังเกตอาการชักของลูกน้อยเพื่อให้สามารถแจ้งกับหมอได้ถูกต้อง และถ้าหากเด็กชักบ่อยๆ ติดๆ กันควรรีบพาไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช  
อาคาร 3 ชั้น 2 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

โทร.02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4