ถ้าพูดถึง “โรคต้อกระจก” “ต้อหิน” ทุกคนก็จะนึกว่านี่เป็นโรคของคนผู้สูงอายุ แต่รู้หรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วโรคนี้สามารถเป็นกันได้ตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว แต่ก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจกันไป เพราะโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตเพื่อที่จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

เข้าใจความแตกต่างของโรคต้อกระจก VS ต้อหิน
เพราะสองโรคนี้จะมีอาการที่ค่อนข้างคล้ายกัน คือตาดำจะดูขุ่นมัวตั้งแต่เเรกเกิด และสู้แสงไม่ได้ แต่ความรุนแรงของต้อหินนั้นจะค่อนข้างน่ากลัวกว่า “ต้อกระจก” เพราะถ้าทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้ “เด็กสูญเสียการมองเห็น” อย่างถาวรได้เลย และถึงแม้ตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถวินิจฉัยถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ทางการแพทย์เชื่อว่านี่เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมในยีนส์บางตัว หรืออาจจะเป็นการเจริญที่ผิดปกติของ “เลนส์ตาในขณะตั้งครรภ์”

สังเกตความผิดปกติ… เพื่อหาทางรักษาได้ทันท่วงที
ถึงแม้โรคนี้เรายังไม่สามารถหาทางป้องกัน เพราะในบางครั้งก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ทันทีตั้งแต่เกิดจึงต้องอาศัยการตรวจประวัติ และสังเกตอาการผิดปกติร่วมด้วย เพื่อช่วยให้วางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที

และนี่คืออาการผิดปกติ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกต
1. เลนส์ตาขุ่นเมื่อดูด้วยไฟฉายจะเห็นว่ารูม่านตามีสีขาว
2. แสงสะท้อนจากลูกตามีความผิดปกติ ดูได้จากเวลาที่ถ่ายรูปแสงสะท้อนจากแฟลชจะทำให้เห็นบริเวณรูม่านตาเป็นสีแดง ซึ่งจะเรียกกันว่า red reflex
3. มีน้ำตาไหลตาสู้แสงไม่ได้ หรือน้ำตาไหลตลอดเวลาเมื่อตาโดนแสง
4. มีความดันตาสูง
5. กระจกตาดำ และลูกตามีขนาดใหญ่กว่าปกติเกิดมาจากความดันตาสูง ทำให้ลูกตาถูกยืดขยายใหญ่กว่าปกติ

ซึ่งทุกอาการพวกนี้ต่างเป็นอาการที่แสดงได้ถึงโรคของต้อกระจก และต้อหินที่เป็นแต่กำเนิด ซึ่งคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตอาการ ถ้าลูกน้อยมีอาการอย่างที่บอกมาสักหนึ่ง หรือสองอาการ ควรรีบปรึกษาจักษุเเพทย์ก่อนที่จะทำให้ลูกน้อยต้องสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช  อาคาร 3 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

โทร.02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4